วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

[ฟิคเสื่อม] ฝรั่ง The series(2) - ขาดเธอไม่ได้ หัวใจขอสารภาพ -
















10:45





เวลาสิบโมงสี่สิบห้านาทีอี้ชิงนั่งเคาะนิ้วลงบนโต๊ะกระจกเป็นจังหวะคอยนับเคาท์ดาวน์ถอยหลังว่าอีฝรั่งมันจะตื่นทันอย่างที่พูดไว้หรือเปล่า นึกเอาไว้ไม่มีผิดเลยว่าคริสคงจะตื่นสายเหมือนทุกครั้งแน่แล้วนี่ก็เลยเวลาที่ควรจะตื่นมาตั้งนานแล้วอีกแค่15นาทีคริสจะต้องไปให้ถึงบริษัทแล้วที่พ่อคุณบอกว่าตั้งปลุกไว้แล้ว นี่ตั้งตอนเที่ยงหรือไงป่านนี้ทำไมนาฬิกายังไม่ปลุกอีกหรือไม่โทรศัพท์ก็คงแบตหมดตามเคย...




ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด


อี้ชิงได้ยินเสียงโทรศัพท์ของคริสดังปลุกมาจากชั้นบนแล้วจึงหันไปมองนาฬิกาบนฝาผนัง วันนี้คริสต้องเข้างานห้าโมงเช้าแล้วอีฝรั่งมันตั้งปลุกสิบโมงกว่านี่คืออะไร? หรือว่ากะจะเนียนเข้าสายเหมือนทุกทีเพราะคิดว่าไม่มีใครกล้าสั่งในเมื่อตัวเองเป็นถึงรองประธานบริษัท
อี้ชิงเบ้หน้าฟังเสียงนาฬิกาปลุกดังไปเรื่อยๆแล้วก็คอยฟังเสียงว่าได้ยินเสียงเปิดประตูหรือยังแต่ก็ไม่มีเสียงอะไรจนกระทั่งนาฬิกาดับไปแล้วเขาก็ยังไม่ได้ยินเสียงตึงตังหรืออะไรเลย ถ้าคริสตื่นตอนนี้ก็ยังพอทันแต่งตัวกินข้าวอยู่หรอกแต่ถ้าช้ากว่านี้คงไม่ทันแน่
คนตัวเล็กลุกขึ้นจากโซฟาเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนเพื่อที่จะไปปลุกสามีจอมไม่เอาไหนเพราะทนปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ได้อย่างน้อยถ้าจะดัดสันดานคริสก็ควรจะต้องสั่งสอนเสียบ้าง




ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก



“คริส จะห้าโมงแล้วตื่นหรือยังคะ” อี้ชิงเดินมายืนอยู่หน้าห้องนอนแล้วเคาะประตูเรียกผู้เป็นสามีเสียงดังแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับเขาจึงตัดสินใจเปิดเข้าไปดูแทนโดยกะว่าจะปลุกด้วยตัวเอง
ทันทีที่ประตูเปิดออกอี้ชิงก็รู้สึกได้ว่าห้องนอนรับรองเงียบสนิท เขาไม่เห็นใครอยู่บนเตียงผ้าห่มยังกองขยุ้มยู่ยี่ไม่มีใครพับอี้ชิงคิดว่าคริสอาจจะตื่นแล้วแต่เมื่อกี้เขาเดินผ่านห้องนอนก็ไม่เห็นได้ยินเสียงใครอยู่ในห้องหรือฝรั่งมันยังอยู่ห้องทำงานหรือเปล่า
พอนึกได้ดังนั้นอี้ชิงก็ปิดห้องเดินเลยไปที่ห้องทำงานที่คริสใช้อยู่เมื่อคืนเพื่อที่จะได้ตรวจดูด้วยว่าที่สั่งไปเมื่อคืนอีฝรั่งมันได้จัดการหรือยัง เขาเดินไปเปิดประตูห้องทำงานทันทีโดยที่ไม่เคาะล่วงหน้าแล้วเมื่อประตูเปิดออกเขาก็พบว่าอีสามีจอมขี้เกียจยังนอนหลับคาอยู่บนเก้าอี้ทำงานโดยใส่หูฟัง ไฟในห้องไม่ปิดแถมขยะบนโต๊ะก็ยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย....





อีคริส....มึง.....




อี้ชิงเดินทำหน้าบึ้งเข้าไปหาคนตัวสูงที่นอนพาดเท้าอยู่กับโต๊ะทำงานแล้วจัดการดึงหูฟังออกทันทีก่อนจะตะโกนเรียกสามีเสียงดังด้วยความหงุดหงิด


“คริส! จะห้าโมงแล้วทำไมยังไม่ตื่นอีก!” อี้ชิงใช้สองมือจับไหล่แล้วเขย่าตัวสามีแรงๆเพื่อปลุกอีฝรั่งสันหลังยาวให้ลุกขึ้นตื่นไปทำงาน สรุปคืออีฝรั่งมันตั้งปลุกไว้แต่ใส่หูฟังนอนใช่ไหมเลยไม่ได้ยินเสียงปลุก



โอ้ยยยยยยยยยย ขัดใจสุดๆ!!!



“อืออออ....ครับ อีกสิบนาที” คริสยกมือขึ้นบังตาจากแสงไฟบนเพดานพร้อมกับพลิกตัวหนีแรงเขย่าอย่างเกียจคร้านไปเกาะอยู่ที่พนักด้านข้าง


“นี่สี่โมงห้าสิบแล้วคริส! โอ้ย~!!” อี้ชิงบ่นไปก็ร้องโอดครวญไป เขากำลังคิดว่าวันนี้อีฝรั่งมันจะไม่กินข้าวเช้าอีกแล้วใช่ไหมหรือว่ามันจะออกไปหาอะไรกินข้างนอก แต่ว่ายังไงซะเวลาอาบน้ำแต่งตัวกว่าจะขับรถไปถึงที่ทำงานอีกแค่สิบนาทีมันไม่พอหรอก!


“อื้ออ...โอเคครับ ตื่นแล้ว” คริสพูดเสียงงัวเงียขยับตัวไปมาเล็กน้อยอ้าปากหาววอดๆก่อนจะลืมตาขึ้นมองหน้าศรีภรรยาที่ยืนทำหน้าบูดอยู่แล้วอมยิ้มออกมานิดๆ ถ้าเป็นช่วงปกติอี้ชิงก็คงจะมากอดเขาแล้วก็จูบปลุกแต่พออยู่ในช่วงลงโทษเลยกลายเป็นว่ามันฮาร์ดคอร์ชะมัดเลยแหะ


“ก่อนไปอาบน้ำเก็บของให้เรียบร้อยด้วย” อี้ชิงขมวดคิ้วยืนกอดอกพูดเสียงแข็งด้วยความไม่พอใจเมื่อเห็นว่าสามียังอยู่ในชุดเดิมเมื่อวานแถมบนโต๊ะยังมีทั้งกระป๋องเบียร์กระดาษทิชชู่ซองขนมไม่รวมก้นบุหรี่อีกสองมวนที่ถูกขยี้คาโต๊ะอีกซึ่งปกติแล้วคริสไม่เคยดูดบุหรี่ให้เขาเห็นเลยถึงจะบอกว่าดูดบ้างก็เถอะ


“จะไม่ทันแล้ว เดี๋ยวตอนบ่ายคริสกลับมาเก็บให้นะคะ วันนี้ทำงานครึ่งวัน” คริสยืนขึ้นชูมือบิดตัวไปมาอย่างขี้เกียจและไม่กระตือรือร้นแม้ว่าตอนนี้จะเข้าเวลางานแล้ว เขากะว่าจะเข้างานสักสิบเอ็ดโมงครึ่งเพราะวันนี้ไม่มีธุระสำคัญอะไรมาก


“เมื่อคืนบอกตอนเช้าจะเก็บให้ พอเช้าบอกจะมาเก็บตอนบ่าย ก่อนบ่ายอี้ก็เข้ามาเก็บอยู่ดี” อี้ชิงยังออกปากบ่นสามีอย่างไม่ลดละ เขาเหลือบตามองคริสเปิดลิ้นชักหยิบเอาน้ำยาบ้วนปากออกมาแล้วปิดฝาพับโน๊ตถอดสายชาร์ตออกอย่างไม่ใส่ใจคำดุด่า นี่อย่าบอกว่าอีฝรั่งมันจะไม่ยอมลงไปอาบน้ำแปลงฟัน...?!


“ก็ทิ้งไว้ก็ได้เดี๋ยวคริสมาเก็บแต่ถ้าใจดีก็เก็บให้หน่อย” คริสว่าพร้อมกับยิ้มออกมานิดๆเพราะรู้ว่าภรรยาของเขาคงทนไม่ได้ที่จะปล่อยให้โต๊ะรกสกปรกแบบนี้หรือถ้าทนได้ก็ทนต่อไปเพราะถ้าคริสอยากจะเก็บเมื่อไหร่ก็จะเก็บเองนั่นแหละ


“นิสัยมักง่าย” อี้ชิงจิกกัดขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็นว่าสามีติดกระดุมคอเสื้อเชิ้ตยับๆแล้วก็ติดกระดุมข้อมือแทนที่จะถอดเสื้อออกเพื่อไปอาบน้ำ นี่คือสรุปว่าอีฝรั่งมันไม่สะทกสท้านอะไรเลยที่เขาด่าว่าไปแถมยังจะไปทำงานชุดเดิมทั้งๆที่ยังไม่ได้อาบน้ำอีก




นี่ผัวหรือตัวสล๊อต!! อีฝรั่งซกมก!!




“ทำไมคริสไม่ไปอาบน้ำก่อน”


“กลับมาค่อยอาบ”



นั่นไง นิสัยเดิม ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยแล้วเดี๋ยวตอนบ่ายมึงกลับมาก็หลับ พอหลับก็ตื่นดึกแล้วก็นอนไม่หลับไม่ยอมอาบน้ำอีกอ้างว่าน้ำเย็น...


เวรกรรม...แค่กูไม่เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้วันเดียวมึงถึงกับไม่ได้อาบน้ำอาบท่า....



“สกปรก! ไม่อาบน้ำก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”


“เสียเวลา คริสจะไปทำงานแล้วนะคะ” คริสว่าพร้อมกับทำท่าจะโน้มตัวลงไปจูบภรรยาแต่คนตัวเล็กกลับรู้ทันเดินถอยหลังออกไปทำเอาคริสถึงกับยิ้มเก้อก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆแล้วคว้าโน๊ตบุ้คกับเสื้อสูทที่พาดอยู่ที่เก้าอี้มาถือไว้ในมือเตรียมออกไปทำงานโดยที่ไม่คิดจะอาบน้ำ


“รีบไปเลย!” อี้ชิงกำลังรู้สึกว่าต่อมวีนของตัวเองกำลังจะระเบิดกับพฤติกรรมของอีผัวตัสล๊อตที่ทำซกมกสกปรกไปทั่วแถมยังมักง่ายอีก นี่เขามองไปทางไหนก็เห็นแต่ขยะๆๆๆ ขนาดบุหรี่ดูดแล้วก็จี้แม่งลงกับโต๊ะจะหาอะไรมารองหน่อยก็ไม่ได้
อี้ชิงใช้หางตาตวัดตามองดูสามีที่เดินหอบโน๊ตบุ้คกับสูทออกไปนอกห้องแล้วจึงกระแทกเท้าเดินปึงปังไปก้มลงเก็บถุงเท้าสองข้างที่ถูกถอดทิ้งไว้ที่พื้นรวมถึงเศษซองหมากฝรั่งและช๊อคโกแลตต่างๆที่เกลื่อนไปหมด


แม่ง!!! นี่กูลงโทษมันหรือลงโทษตัวเอง รู้สึกเหมือนกระเทยมีภาระเพิ่มขึ้น!!!!


อี้ชิงจัดการปัดเศษซากทิชชู่ที่เปื้อนคราบน้ำว่าวอีฝรั่งและกระป๋องเบียร์รวมถึงขยะต่างๆลงถุงใส่ของอย่างลวกๆก่อนจะเดินออกไปนอกห้องเพื่อเอาไปทิ้งแล้วกะว่าจะกลับเข้ามาปัดกวาดอีกรอบนึง สาบานได้เลยว่าอีฝรั่งเป็นคนที่มีความสามารถจริงๆ น้ำไม่อาบมันก็อยู่ได้ ห้องรกสกปรกก็อยู่ได้ ไปทำงานสายข้าวไม่กินก็ไม่เดือดไม่ร้อน สรุปโปรแกรมดัดนิสัยนี่มันเพิ่มภาระให้ใครกันแน่!!

กระเทยหงุดหงิดโว้ย!!! ผัวแม่งเฮงซวย กลับมาแดกเบียร์น้ำท่าไม่อาบข้าวของซื้อมาให้ก็ไม่รู้จักทำกิน แม่งแดกแล้วยังทิ้งเรี่ยราดให้กูตามเก็บ พอไม่ให้เอาก็ย่องไปเอากางเกงในกูมาสำเร็จความใคร่แล้วก็ไม่ซักให้อีกคราบเหี้ยไรเต็มไปหมดก็ไม่รู้




กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!



อี้ชิงรู้สึกเหมือนควันจะออกหูอยู่กลายๆ เขาเดินเอาถุงขยะไปทุ่มใส่ถังขยะใหญ่ในห้องครัวอย่างแรงก่อนจะกระแทกตัวนั่งลงกับเก้าอี้โต๊ะกินข้าวแรงๆเป็นการระบายอารมณ์ ถ้าเป็นช่วงปกติเขาก็ยินดีจะตามเช็ดล้างให้อีผัวตัวสล๊อตอยู่หรอกแต่ตอนนี้คริสโดนทำโทษอยู่ก็ควรจะทำตัวเองให้ดีขึ้นเสียบ้างไม่ใช่ทำตัวสบายๆไม่สำนึกอะไร พอไม่ดูแลก็ไม่ใส่ใจเหมือนเดิมแถมยังเพิ่มภาระให้
ถ้าเป็นตอนปกติอี้ชิงก็จะทำทุกอย่างตั้งแต่ปลุกลากมันขึ้นมาอาบน้ำ เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้ ทำกับข้าวรอ ไปส่งที่รถ ผูกเน็กไท ทำข้าวเย็นแล้วเข้านอนพร้อมกัน เพราะเป็นแบบนี้อี้ชิงถึงได้ไม่ต้องมาดูและอะไรมาก อีฝรั่งมันก็ใช้ชีวิตสบายๆของมันไปแต่พอเขาไม่ดูแลเข้าหน่อยจากเรื่องสบายๆก็กลายเป็นภาระทันที

จริงๆก็ต้องยอมรับแหละว่าคริสเป็นอย่างนี้ตั้งแต่ที่คบกันแล้วคือเป็นคนติดสะดวกสบายง่ายๆไม่คิดอะไรมาก เอะอะๆก็ไปซื้อไปช้อปซึ่งตอนแรกเขาก็ชอบหรอกเพราะดูเป็นคนไม่ซีเรียสดี คริสเป็นคนจริงจังกับการตัดสินใจมาก มีความคิดเป็นระเบียบมีแบบแผนเชิงธุรกิจและสามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้ดีในเรื่องของการทำงานแต่เรื่องง่ายๆบางทีคริสก็คิดไม่ได้และชอบทำให้มันยุ่งยาก

การทำงานที่มีประสิทธิภาพของคริสไม่มีประโยชน์ในชีวิตประจำวัน คริสเป็นพวกติดสบายคือคิดว่าตัวเองหาเงินได้มากจะใช้ซื้ออะไรก็ได้ ออกไปกินข้าวนอกบ้านวันละสามมื้อขนหน้าแข้งยังไม่ร่วง เป็นคนที่มีแต่คนอยากจะเข้าหาอยากจะเข้ามาช่วยเหลือจนตัวเองชินชากับความสะดวกสบายที่ได้รับ
ทำบ้านรกก็จ้างแม่บ้านมาดูแล หิวก็ออกไปกินข้าวข้างนอก ตอนเช้ามีสาวที่ลากมานอนด้วยปลุกให้ไปทำงานแต่ตอนนี้คริสไม่มีใครนอกจากเขาซึ่งอี้ชิงก็ยินดีจะทำทุกอย่างทดแทนในสิ่งที่คริสทำไม่ได้แต่เขาคิดว่าคริสควรจะดูแลตัวเองได้บ้างอย่างน้อยสักนิดนึงก็ยังดี



บางทีอี้ชิงก็รู้สึกสงสารคริส....




ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ



เสียงโทรศัพท์ที่เหน็บอยู่ที่ขอบกางเกงดังขึ้นฉุดคนตัวเล็กออกจากห้วงอารมณ์หงุดหงิด อี้ชิงยืดหลังควักโทรศัพท์ออกมาปลดล็อคดูและพบว่ามันเป็นข้อความจากแบคฮยอนที่ถูกส่งมาทางmessage เขาเลยรีบเปิดมันดูทันทีเพราะร้อยวันพันปีอีเพื่อนเก้งไม่เคยสละเงินสักสตางค์เดียวส่งข้อความข้ามประเทศมาหาเขานอกจากฝากซื้อของ



เห็นยังอีกระเทย


ข้อความถูกส่งมาพร้อมกับรูปภาพที่เป็นไฟล์แนบอี้ชิงเลยเลื่อนลงดูและพบว่ามันเป็นภาพหน้าจอที่ถ่ายจากคอมพิวเตอร์ดูเหมือนจะเป็นภาพจาก Weibo อีฝรั่งนั่นแหละ เหมือนคริสจะอัพเว่ยฯเป็นภาษาจีนโดยที่อ่านรวมๆแล้วมันก็มีข้อความประมาณว่า...







'ภรรยาของผม...เธอคือเครื่องซักผ้า,เป็นเครื่องดูดฝุ่น,เธอคือเครื่องทำกาแฟ,เป็นหม้อหุงข้าว,เป็นเครื่องล้างจาน,เธอคือนาฬิกาปลุกและผมรักเธอ ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ <3 Zhang Yixing'


.....

.....

.....


อืม.....อะไรคือการที่อีฝรั่งมันบอกให้โลกรู้ว่ากูเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอำนวยความสะดวกของมึงแถมตบท้ายด้วยการบอกรักแล้วก็ขอบคุณที่เป็นห่วง นี่คริสรู้สึกจริงๆหรือตั้งใจอัพประเหลาะก็ไม่รู้แต่ดูท่าแล้วก็คงเป็นความจริงนั่นแหละเพราะอีฝรั่งมันก็รู้ว่าเขาไม่ได้เล่นพวกโซเชี่ยลเลย...



เหอะ แค่นี้ไม่ทำให้กูหายเคืองหรอกค่ะ ถุงเท้ากูซักให้ตั้งแต่คืนก่อนเหม็นอับคาตู้มึงยังไม่เอาออกมาตาก แต่ไหนๆก็ไหนๆกูไปตากให้ก็ได้...เขินวุ้ย


.

.

.

.

.

.

.

.


ตุ้บ



อี้ชิงกระแทกตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ของสามีหลังจากจัดการเช็ดขัดโต๊ะเพื่อถูเอารอยไหม้จากขี้บุหรี่ออกอยู่พักใหญ่ เขาถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยโยนผ้าขี้ริ้วดำๆไว้บนโต๊ะก่อนจะเปิดลิ้นชักที่โต๊ะออกเพื่อดูว่าอีสามีมันแอบซุกซ่อนอะไรไว้บ้างหรือเปล่า
อี้ชิงหยิบเอาซองบุหรี่สีดำขึ้นมาดูแล้วโยนลงถุงขยะอย่างไม่ไยดีเพราะเขาไม่สนับสนุนให้คริสสูบบุหรี่ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม อี้ชิงรื้อเอาพวกกระดาษรกๆในลิ้นชักมาเคาะให้เป็นปึกเสมอกันก่อนจะวางไว้บนโต๊ะแล้วกวาดเอาพวกเศษกระดาษเล็กๆมากองรวมกันที่มุมลิ้นชัก

เขาเห็นกระดาษอัดรูปขนาด5x7นิ้วที่พลิกคว่ำอยู่ติดออกมากับเศษกระดาษแล้วก็อดสงสัยไม่ได้เลยหยิบมันขึ้นมาดู กระดาษโฟโต้2ใบถูกเย็บติดกันด้วยแม๊กซ์ ใบแรกเป็นภาพผู้หญิงสวยๆดูอวบนิดหน่อยยืนถ่ายรูปโอบไหล่คู่กับคริสแต่เหมือนคริสจะแต่งตัวแปลกๆดูเชยๆยังไม่ก็ไม่รู้
เขาพลิกภาพไปดูรูปหลังและเห็นว่ามันเป็นรูปของเขาเองที่ถ่ายด้วยกันกับคริสหลังคืนแต่งงานในสภาพชุดเจ้าสาวบนเตียงกับฝรั่งหื่นกามที่นอนเปลือยอยู่ใกล้ๆ นึกแล้วก็เขินขึ้นมาพิลึก
อี้ชิงตะแคงรูปอ่านข้อความแนวนอนที่เขียนอยู่หลังภาพใบแรกด้วยความตั้งใจตั้งแต่ตัวอักษรแรกไล่ไปเรื่อย ดูแล้วคงเป็นรายมือคริสนั่นแหละ ถ้าเดาไม่ผิดผู้หญิงในรูปคงเป็นแม่คริสส่วนคนข้างๆคงเป็นเจี้ยเหิงตอนหนุ่มแต่ดูแล้วเมือนกันสุดๆเลย

รอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าเมื่อข้อความถูกอ่านจนจบ จางอี้ชิงยิ้มเผล่ก่อนจะวางรูปทั้งสองใบลงในลิ้นชักตามเดิมแล้วเก็บเอากระดาษที่วางไว้บนโต๊ะยัดใส่ลิ้นชัก ดขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอีฝรั่งมันอายุป่านนี้แล้วยังทำอะไรน่ารักๆเหมือนเด็กๆอีก เป็นคนที่ขี้เกียจแบบมุ้งมิ้งจริงๆ...




หม่าม๊าครับ คริสแต่งงานมีครอบครัวแล้วนะครับ... ภรรยาของคริสเป็นคนดีมากไม่ต้องห่วงเหลือแต่พ่อที่ยังเป็นเหมือนเดิม คริสไม่อากทำให้ภรรยาเสียใจแล้วก็ไม่คิดจะทำด้วยครับ คริสเลิกเที่ยวเลิกดื่มแล้วถึงหม่าม๊าจะไม่ได้อยู่เห็นคริสวันนี้แต่ว่าคริสเอารูปภรรยามาฝากไว้กับหม่าม๊าแล้วนะครับ คริสฝากชีวิตไว้กับอี้ชิงเขาดูแลคริสอย่างดีเหมือนหม่าม๊าเลย หวังว่าม๊าจะถูกใจลูกสะใภ้ครับ....







เป็นคนที่รักมัยและกตัญญูเหมือนกันนะเนี่ยอีฝรั่ง.....







อี้ชิงยิ้มกริ่มก่อนจะปิดลิ้นชักใหญ่แล้วเริ่มค้นชั้นข้างๆแทนเผื่อว่าจะเจอความลับของอีฝรั่งมันมากขึ้น เขาหันไปดึงเก๊ะทางขวาแต่ปรากฏว่ามันล็อคอยู่ทำให้เปิดไม่ออกอี้ชิงเลยพยายามหันไปค้นชั้นข้างซ้ายที่ว่างเปล่าแทนเผื่อจะเจอกุญแจแต่ก็ไม่พบ จะว่ามีของสำคัญอะไรก็ไม่น่าใช่เพราะคริสไม่เคยหอบเอกสารกลับมาบ้านเลยสักครั้งมันทำให้เขาสงสัยมากยิ่งขึ้น

อี้ชิงก้มลงมองลิ้นชักด้านล่างแล้วก็เห็นว่ามันมีกุญแจดอกเล็กเสียบคาอยู่เขาเลยรีบดึงมันออกมาแล้วไขที่เก๊ะชั้นบนทันที เพียงออกแรงดึงเบาๆลิ้นชักก็ไถลออกมาพร้อมกับรูปมากมายเกลื่อนเต็มชั้นแต่มองผ่านๆแล้วเป็นภาพมึดๆดูไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ เขาจึงหยิบภาพขึ้นมาพลิกดูแล้วมองอย่างตั้งใจ2-3ใบก่อนจะอ้าปากค้างจากนั้นก็รีบคุ้ยรูปในชั้นออกมาดูจนกระจุยกระจายเต็มโต๊ะไปหมด


อะไรคือรูปพวกนี้มีแต่ภาพถ่ายเขาตอนนอนแหกแข้งแหกขาทั้งเปลือยและอยู่ในชุดนอนเป็นภาพสาดแฟลชแบบสว่างจ้าในห้องนอนมืดๆทั้งนั้น



นี่มันอะไรกัน!!! อีฝรั่งคริสมันไปแอบถ่ายตอนไหนนี่มันภาพโป๊ชัดๆ








“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!





กระเทยรับไม่ได้อ่ะขุ่นแม่ TTT______TTT นู๋โดนแอบถ่าย น้องอี้โดนผัวแอบถ่ายภาพโป๊ววววววววว~~~~



อี้ชิงโยนรูปทั้งหมดใส่ลิ้นชักแล้วปิดเก๊ะล็อคกุญแจทันที เขาไม่อยากจะเห็นภาพที่สื่อออกมาถึงความลามกของอีสามีตัวดีที่แอบถ่ายแม้กระทั่งตอนหลับ คนตัวเล็กลุกขึ้นเก็บผ้าขี้ริ้วกับถุงขยะพร้อมกับกระป๋องสเปร์ยดับกลิ่นเดินออกไปนอกห้องอย่างไม่อยากจะใส่ใจ ถึงเขาจะรับไม่ค่อยได้แต่ก็ทำใจทิ้งรูปพวกนั้นไม่ลงเพราะคิดว่าสงสารเกรงว่าคริสจะไม่มีรูปไว้ชักเศร้าจนกว่าจะพ้นกำหนดลงโทษ
วันนี้อี้ชิงไม่มีตารางต้องไปไหนไกลนอกจากไปรับพัสดุที่อีเก้งบยอนซ่าส่งมาให้เมื่อสองวันก่อนตอนเที่ยงที่ไปรษณีย์แล้วก็ว่างไปจนถึงเย็นแต่ว่าวันนี้คริสบอกว่าจะกลับครึ่งวันเดี๋ยวบ่ายๆก็คงมาถึงบ้านเขาจะได้ไม่ต้องเหงามากนักอย่างน้อยมีอีฝรั่งคอยกวนก็ยังดีกว่านั่งหงอยๆคนเดียว

ตอนนี้สิบเอ็ดโมงใกล้เที่ยงแล้วอี้ชิงคงจะต้องไปอาบน้ำเตรียมตัวออกไปรับพัสดุเผื่อว่าจะกลับมาทันก่อนที่คริสกลับถึงบ้านอีฝรั่งมันจะได้ไม่หูตาแหกโทรตามจิกยิกๆๆอย่างกับกลัวว่าเขาจะหนีกลับเกาหลีไปอย่างนั้นแหละ...



ถึงกูจะโกรธมึงมากแค่ไหนแต่สารภาพเลยว่ากูไม่กล้าทิ้งมึงให้อยู่คนเดียวจริงๆนะอีฝรั่ง...




















lalalalal~~~





คริสเดินควงกุญแจรถผิวปากเข้ามาในบ้านอย่างอารมณ์ดี วันนี้เขายัดเยียดงานทั้งหมดให้เลขาไปแล้วพรุ่งนี้คริสจะได้ไม่ต้องตื่นเช้าๆไปทำงานให้เสียเวลานอน อีกเหตุผลนึงคือเมื่อเช้าเขาก็รู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัวเหมือนจะไม่สบายด้วยเลยกะจะนอนพักยาวๆซัก3-4วัน ถึงแม้จริงๆคริสก็รู้อยู่แก่ใจหรอกว่าเหตุผลหลักๆคือขี้เกียจตื่นเช้าแล้วก็ไม่ค่อยอยากออกไปไหนด้วย ถ้าเขาได้คลุกคลีอยู่กับเมียทั้งวันคริสเชื่อเลยว่าจากโทษ4วันจะเหลือแค่5นาทีเท่านั้นเองเหมือนในหนังญี่ปุ่นประเภทร้องอย่าๆๆๆแต่ขานี่ถ่างไปถึงไหนอี้ชิงก็คงจะเป็นแบบเดียวกัน
คริสเดินตรงไปที่ห้องครัวก่อนอันดับแรกด้วยความหิวเผื่อว่าอี้ชิงจะทำอะไรไว้เผื่อบ้าง เขาไปเปิดตู้กับข้าวก่อนเป็นอย่างแรกแต่ก็ต้องแป้กเพราะมันไม่มีอะไรคริสเลยเปลี่ยนไปที่ตู้เย็นแทน อากาศเย็นๆแบบนี้มันก็ต้องคู่กับบียร์เย็นๆและมันฝรั่ง เฟรนฟราย ไก่ทอดแต่สองอย่างหลังนี่คริสไม่มีปัญญาทำเขาเลยหยิบเบียร์ออกมาแค่3กระป๋องแล้วปิดตู้เย็นก่อนจะเดินไปเปิดตู้ชั้นบนหยิบเอาขนมขบเขี้ยวออกมา2-3ห่อแล้วเดินออกจากห้องครัวเดินกลับไปที่โซฟากลางห้องทิ้งตัวอย่างเกียจคร้านลงบนเบาะนวมทันที

วันนี้บ้านเงียบไปหน่อยเพราะอี้ชิงออกไปข้างนอกแล้วก็โทรบอกเขาว่าบ่ายๆจะกลับคริสก็แอบหวังว่าภรรยาจะใจดีซื้อของกินมาฝากด้วยเพราะเขายังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า...ระหว่างนั่งรอคริสก็เปิดโทรศัพท์ดูข่าวกินเบียร์ไปเรื่อยเพื่อรอเวลาภรรยากลับมาหาข้าวให้กินเหมือนทุกวัน...

.

.

.

.

.

.

.



โอย~ เซ็งตั้งแต่เช้ายันบ่าย กูเอาพาสสปอร์ตไปรับเอกสารก็ต้องเซ็นนั่นเซ็นนี่แล้วพูดห่าไรก็ฟังไม่รู้เรื่อง อาศัยใจกล้ากับตีหน้ามึนอย่างเดียวเลยถึงได้เอาพัสดุกลับบ้านมาได้เนี่ย!

หลังจากลงจากรถแท๊กซี่อี้ชิงก็นึกสบถในหัวด้วยความหงุดหงิด วันนี้เขาอุตส่าห์ใจกล้าไปเอาพัสดุคนเดียวแต่พอต้องเซ็นชื่อก็ดันเขียนผิดที่อีกแล้วไอ้พนักงานมันก็สปี๊คอะไรไม่รู้อยู่นานสองนานกว่าจะยอมขนของออกมาให้เขาเล่นเอาเสียเวลาไปเต็มๆ
อี้ชิงปิดล็อคประตูรั้วเล็กให้เรียบร้อยเขาเห็นว่ารถคริสมาจอดอยู่ในบ้านอีฝรั่งคงจะกลับมาถึงบ้านแล้วน่นแหละ อี้ชิงเปิดประตูเดินเข้าไปในบ้านและเห็นว่าอีสามีตัวดีนอนเอาขาพาดโซฟาอยู่บนโต๊ะมีถุงขนมกระป๋องเบียร์ตามเคยแถมดูท่าเหมือนจะหลับทั้งๆที่ทีวียังเปิดไว้ด้วยเพราะเขาไม่ได้ยินเสียงมันกระดี๊กระด๊าเหมือนทุกทีเลย



ให้มันได้อย่างนี้สิ....เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ ขี้เกียจยังไงขี้เกียจอย่างงั้น...



“คริส~ ที่รักหลับหรอ~” อี้ชิงเดินเอากล่องพัสดุไปวางไว้บนชั้นก่อนจะถอดเสื้อคลุมออกแล้วเดินไปหาคนตัวสูงที่นอนเหยียดอยู่ที่โซฟา คริสกำลังหลับอยู่จริงๆด้วยแถมยังนอนหน้านิ่วเหมือนไม่ค่อยสบายตัวอี้ชิงเลยจัดการรูดถุงเท้าทั้งสองข้างของสามีออกแล้วเขยิบตัวไปปลดเน็กไทพร้อมกับแกะกระดุมเสื้อเม็ดบนออก
ตามไรผมของคริสมีเหงื่อเกาะอยู่นิดหน่อยทั้งๆที่อากาศเย็นทำให้อี้ชิงอดเอามือไปจับไม่ได้แล้วก็พบว่าอีฝรั่งมันตัวอุ่นๆเหมือนจะไม่สบายด้วย



อืม... ก็สมควร ข้าวปลาไม่แดกกินแต่เบียร์ กลางคืนก็ไม่หลับไม่นอนแถมนอนไม่ห่มผ้าทั้งๆที่อากาศเย็น นี่กูก็ไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี...กระเทยเพลียค่ะ


“คริส คริส ไม่สบายหรอคะ” อี้ชิงใช้มือตบที่หน้าสามีเบาๆจนคนตัวสูงส่ายหน้าหนีพร้อมกับกร่นเสียงครางในลำคอ คริสลืมตาขึ้นมองเขาแล้วกระพริบตาถี่ๆก่อนจะทำท่าเหมือนจะหลับต่อทั้งๆที่ยังไม่ยอมตอบคำถาม


“อย่าเพิ่งนอนนะเดี๋ยวกินข้าวกินยาก่อน”


“อืออ....” คริสส่งเสียงครางในลำคอแต่ยังคงหันหน้าหนี เรียวคิ้วดกดำขมวดแน่นอย่างไม่สบายตัวถึงแม้อุณหภูมิในร่างกายจะสูงไม่มากก็ตาม


“จะกินอะไรไหมคะ จะทำมาให้จะได้กินยา” อี้ชิงใช้มือเสยผมที่ปรกหน้าของสามีขึ้นไปด้านบนแล้วดึงชายเสื้อตัวเองขึ้นเช็ดเหงื่อให้คนตัวสูงที่นอนซมอยู่ ถึงแม้จะอยู่ในช่วงลงโทษแต่ถ้าอีฝรั่งมันสภาพไม่ดีขนาดนี้อี้ชิงคงทำใจร้ายไม่ลง


“ไม่กินครับ ยังไม่อยากกิน” คริสถอนหายใจยาวๆพ่นลมร้อนๆออกมาจากจมูกก่อนจะผลิกตัวหนี เขารู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัวอบอ้าวไม่รู้สึกอยากกินอะไรทั้งนั้นเหมือนจะป่วยเพราะอากาศเย็นเมื่อคืนที่ไม่ได้นอนที่ห้องนอนแถมยังไม่ห่มผ้าอีกด้วย


“ไม่ได้นะคะ อย่าดื้อ เดี๋ยวอี้ไปทำอะไรมาให้กิน” อี้ชิงถอนหายใจยาวกับความดื้อด้านของสามีก่อนจะลุกขึ้นหยิบกระป๋องเบียร์กับถุงขนมเดินเข้าครัวไปเพื่อที่จะทำอาหารให้ตัวสล๊อตที่นอนป่วยอยู่กลางบ้าน อี้ชิงไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาไม่ได้ดูแลคริสแค่สองวันอีฝรั่งมันจะปล่อยตัวเองจนเป็นไข้ขนาดนี้ ถ้าสมมุติว่าเขาหนีกลับเกาหลีจริงๆขึ้นมาคริสคงอยู่ไม่รอดเกิน3วัน


อี้ชิงเดินไปเสียบปลั๊กน้ำร้อนเพื่อที่จะทำโจ๊กสำเร็จรูปให้คริสกินก่อนจะได้กินยาเพราะกว่าข้าวเย็นจะเสร็จเดี๋ยวจะเลยมืดไปซะก่อน เขาหยิบชามจากชั้นและซองโจ๊กที่วางอยู่ใกล้ๆกันมาฉีกใส่ชามไว้แล้วเปิดตู้ชั้นบนหยิบเอากะละมังพลาสติกใบเล็กลงมา เขากะว่าถ้าคริสกินข้าวกินยาเสร็จจะขึ้นไปเช็ดตัวให้ด้วยถึงจะมีอาการแค่ตัวอุ่นๆก็ตามแล้วก็จะได้ชะล้างคราบสกปรกที่อีฝรั่งมันได้สะสมมาสองวันเต็มๆด้วย



เพียงไม่นานไม่ถึงห้านาทีไฟสีแดงบนกระติกน้ำร้อนก็เปลี่ยนตำแหน่ง อี้ชิงเขยื้อนชามไปรองใต้ตำแหน่งสายดูดก่อนจะกดน้ำจนเกือบเต็มถ้วยแล้วหยิบช้อนในตะกร้ามาคนเบาๆจากนั้นก็ยกออกไปจากห้องครัวปล่อยให้กาน้ำร้อนทำงานต่อไป


“คริส หลับหรือยัง” อี้ชิงเดินถืมชามโจ๊กไปวางไว้บนโต๊ะกระจกก่อนเขย่าตัวปลุกเจ้าสล๊อตที่นอนขี้เกียจอยู่บนโซฟา คริสไม่ได้เป็นอะไรมากเลยแค่ตัวอุ่นๆเหมือนจะเป็นไข้เท่านั้นเอง อะไรคือมาทำสำออยเสาะแสะอ้อนอย่างกับจะตายห่าแบบนี้

“ครับ”


“ตื่นมากินข้าวก่อน” อี้ชิงพยายามจะดึงบ่าทั้งสองข้างสามีให้ลุกขึ้นมานั่งแต่คริสกลับไม่ให้ความร่วมทำตัวอ่อนแล้วยังทำท่าเหมือนจะพลิกตัวหนีอีกต่างหาก ดูท่าทางแล้วคริสคงจะป่วยการเมืองแหงๆเห็นตอนปกติแม้จะไม่สบายก็ยังทำการบ้านได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องอีกอย่างร่างกายของคริสก็แข็งแรงมากแค่กินยาเม็ดเดียวนอนตื่นนึงก็หายแล้ว


“ไว้นั่นแหละ เดี๋ยวคริสกินเอง”







เหอะ.... อย่ามาทำเหลี่ยมจัด นี่เมียนะคะไม่ใช่คนไกลจะได้มาตบตากันง่ายๆ กูวิจัยให้เลยว่ามึงเป็นโรคเรียกร้องความสนใจค่ะอีฝรั่ง




อี้ชิงทำหน้าเซ็งเมื่อคริสพลิกตัวเข้าหาพนักพิงอย่างไม่ไยดี นี่ถ้าเขาไม่ได้เป็นเมียนี่คงจะดูไม่ออกและนึกว่าคริสเป็นโรคร้ายแรงจะเป็นจะตายห่าอะไรขึ้นมา ดูท่าแล้วอีฝรั่งมันคงอยากจะหาเรื่องเรียกร้องความสนใจนั่นแหละพอตัวเองป่วยมีโอกาสเข้าหน่อยก็เลยจัดเต็มซะเหมือนคนเป็นโรคเบื่ออาหาร แต่ก็อย่างว่าหละ...อี้ชิงไม่ใจร้ายขนาดจะปล่อยให้ผัวตัววสล๊อตนอนป่วยอย่างเดียวดายหรอก




เห้อ....เวรกรรมกูจริงๆค่ะ




“นะคริส ลุกขึ้นมาแป้บเดียวนะคะ แล้วก็กินยาเดี๋ยวอี้จะเช็ดตัวให้” อี้ชิงจับฝ่ามือหนาขึ้นมากุมและเขย่าเบาๆ เขาเห็นว่าคริสปรือตาขึ้นมามองนิดๆแล้วถอนหายใจก่อนจะค่อยๆดันตัวลุกขึ้นช้าๆในสภาพโงนเงนหดขาที่พาดอยู่บนที่กั้นโซฟาลงมาวางที่พื้นพิงหลังกับพนักพิงแทน


“กินให้อี้หน่อยนะ” อี้ชิงตักโจ๊กในชามมาเป่าแล้วยื่นไปจ่อที่ริมฝีปากคนตัวสูง คริสเหล่ตามองภรรยาแว้บนึงแต่ก็อ้าปากรับเอาโจ๊กคำนั้นเข้ามากินอย่างไม่อิดออด


“แล้วเดี๋ยวก็กินยานะคะ” อี้ชิงตัดโจ๊กป้อนสามีไปเรื่อยๆโดยที่อีฝรั่งก็ยังนั่งหลับตากินโจ๊กอย่างสบายใจไม่แม้แต่จะคิดเป่าโจ๊กเองด้วยซ้ำ


“คริสไม่กินยานะคะ”


“หื้อ? ทำไมหละคะ ทำเป็นเด็กๆไป”


“มันขมคอยังไงก็ไม่รู้” คริสว่าตามความรู้สึก ขนาดกินแค่ข้าวยังไม่ได้กินยาเขายังรู้สึกเลยว่ารสชาติอาหารมันแปลกๆแล้วก็ไม่อยากกินอะไรด้วย


“ก็คนไม่สบายนี่คะ คริสไม่อยากกินเองต่างหาก” อี้ชิงรูดก้นช้อนกับขอบชามยกเนื้อโจ๊กขึ้นเป่าก่อนจะยื่นไปป้อนให้คนตัวสูงถึงปาก ปกติคริสเป็นพวกดื้อด้านกินยายากซะที่ไหน กินทีเดียวสองเม็ดก็ยังเห็นกินมาแล้วจะมาทำสำออยตอนนี้ก็คงไม่เนียน


“อื้อ... ไม่อยากกิน” คริสไม่ปฏิเสธว่าสิ่งที่อี้ชิงพูดมันเป็นเรื่องจริง อาการขมคอมันก็แค่เล็กๆน้อยๆแต่เขาไม่อยากจะกินมันเองต่างหาก


“ทำไมหละคะ”


“คริสไม่อยากหายป่วย...” พอว่าแล้วก็เบียนหน้าหนีช้อนข้าวก่อนจะเอนตัวตัวลงนอนกับโซฟาอีกครั้งปล่อยให้ภรรยาถือช้อนเก้อ ถึงอาการไข้มันจะไม่เป็นอะไรมากแต่คริสรู้สึกว่าช่วงนี้เขาไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่เหมือนจะมีอาการอ่อนเพลียผสมด้วยเพราะทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ


อี้ชิงมองสามีที่เอนตัวหนีด้วยความรู้สึกหน่วงไปหมดจนช้อนในมือแทบร่วงมือ เขาวางช้อนไว้ในถ้วยก่อนเขยิบตัวขึ้นไปนั่งที่ขอบโซฟาตรงที่คริสนอนอยู่แล้วโน้มหน้าไปหาสามีที่หรี่ตามองยู่รำไร เห็นแล้วมันหน้าหมั่นเขี้ยวจริงๆ


“โถ่ ถ้าไม่กินยาก็ไม่หายนะคะ แล้วอี้ก็เป็นห่วงเนี่ย” อี้ชิงยกมือขึ้นแตะหน้าผากอุ่นของสามีเบาๆพร้อมกับยิ้มออกมา เขาเริ่มจะรู้สึกสงสารคริสขึ้นมาจริงๆแล้วเพราะดูท่าคริสคงจะหงอยเหงาน่าดูพอมีโอกาสถึงได้รีบเก็บกวาดเอาขนาดนี้ นึกแล้วก็อดรู้สึกผิดไม่ได้เหมือนตัวเองกำลังทำบาปโดยการขังสุนัขติดสัตว์ได้ในกรงยังไงก็ไม่รู้


“อื้อ....”


“ถ้ากินยาแล้วหายคืนนี้อี้จะไปนอนด้วยนะคะ แต่ถ้าไม่หายคงไม่ไปเดี๋ยวติดหวัด” อี้ชิงว่าแล้วก็ยิ้มออกมากับคำพูดเหมือนหลอกเด็กของตัวเอง


“จริงหรือเปล่าคะ สัญญาแล้วนะ” ดวงตาคมที่ปรือปรอยทำท่าสะลึมสือลืมโพรงขึ้นมาทันที น้ำเสียงกระเซสะกระแสะเมื่อครู่กลายเป็นเสียงโทนปกติทำเอาอี้ชิงแทบจะหลุดขำออกมา สรุปคือคริสป่วยจริงแค่ยี่สิบเปอร์เซนต์ ที่เหลือโอเวอร์แอคติ้งทั้งนั้นสินะ


แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าเห็นมันหงอยหละวะ....


“อื้อ~ จริงสิ”


“ที่รักใจดีจัง” คริสยกแขนขึ้นกอดเอวภรรยาลงมากอดไว้แน่น ที่เขาไม่อยากหายป่วยก็เพราะว่าถ้ากลับไปเป็นปกติก็จะไม่มีคนหาข้าวมาให้กิน ไม่มีอี้ชิงมาดูแล ถ้าเป็นอย่างนั้นสู้ป่วยไปนานๆดีกว่า


“งอแงเป็นเด็กๆ” อี้ชิงซบหน้าลงกับบ่ากว้างปล่อยให้คริสกอดเอาไว้อย่างไม่ได้ขัดขืน เรื่องลงโทษเอาไว้ทีหลังเถอะเดี๋ยวคนป่วยจะตรอมใจตายเพราะแค่เป็นไข้หวัดไปซะก่อน


“ขอโทษนะคะที่เป็นภาระ” คริสพูดเสียงแผ่วเบา ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าตัวเองไม่มีอะไรดีสักอย่างแต่คริสไม่รู้จะทำยังไง เมื่อก่อนเขาใช้ชีวิตแบบติดห้างกินข้าวนอกบ้าน สั่งข้าวใต้คอนโดขึ้นมากิน ตกดึกไปกินที่ร้านเหล้าตอนเช้าผู้จัดการหรือไม่ก็คู่ขาปลุกไปทำงานมีแม่บ้านทำความสะอาดให้ คริสไม่เคยต้องทำอะไร กับเรื่องง่ายๆบางคนอาจทำได้แต่เขาไม่รู้วิธีจัดการจริงๆ แค่พับผ้าห่มยังไม่เรียบเลย


“ทำไมพูดอย่างนั้นหละคะ ไม่ใช่ซะหน่อย ถ้าวันนึงอี้เป็นไรตายขึ้นมาคริสก็ต้องหัดดูแลตัวเองสิ” อี้ชิงเงยหน้าขึ้นจูบปลายยคางสากเบาๆก่อนจะส่งยิ้มไปให้คนตัวสูงที่หลุบตามองอยู่ เขาไม่เคยคิดว่าคริสเป็นภาระเลยสักนิดเดียว อี้ชิงยินดีและเต็มใจจะทำให้ทุกอย่างเพียงแต่เขาคิดว่าถ้าวันนึงตัวเองไม่อยู่ขึ้นมาคริสจะดูแลตัวเองได้ยังไง


“คริสคงตายตามนั่นแหละ” คริสตอบอย่างไม่คิด เขาไม่รู้ว่าอี้ชิงจะตายวันไหนหรือใครจะตายก่อนใครแต่โลกมันคงเอียงจนคริสไม่สามารถเดินไปไหนต่อได้ถ้าภรรยาของเขาจบชีวิตลง


“หื้อ? ได้ไง ถ้าอี้ตายคริสก็ต้องใช้ชีวิตต่อไปสิคะ เงินเหลือเยอะแยะก่อนจะแก่ตายก็ใช้ให้หมด ใช้ซื้อความสุขทดแทน ทำไมจะอยู่ไม่ได้”


“แล้วถ้าที่รักตายคริสต้องจ่ายกี่ล้านถึงจะซื้อที่รักกลับมาได้” คริสว่าพร้อมกับก้มหน้ามองคนตัวเล็กที่เงยหน้าขึ้นมาสบตาก่อนจะพูดต่อ


“ไม่ใช่แค่ตายหรอก ถ้าเงินมันซื้ออี้ไม่ได้ก็ไม่มีค่า บางทีคริสก็คิดนะว่าถ้าวันนึงอี้ไม่อยากทนคริส คริสจะทำยังไงถึงจะรั้งอี้ให้อยู่ด้วยกัน” คริสเหลือบตามองเพดานพร้อมกับถอนหายใจออกมาด้วยความหนักอก ก่อนแต่งงานคริสหลงตัวเองมาตลอดและเขาคิดว่าอี้ชิงจะไม่มีทางเลิกกับเขาแน่เพราะคริสเอาใจเก่ง มีเงิน หล่อ เซ็กส์ก็เก่งโปรไฟล์ดีมีวาทศิลป์ เขาคิดว่าตัวเองดีเลิศเพอร์เฟคมาตลอดจนกระทั่งหลังแต่งงานสัจจะธรรมก็เริ่มบังเกิด


“คริสก็อยากทำเองให้ดีแต่ไม่รู้จะต้องทำยังไง คริสไม่อยาเสียรัก” ความจริงเริ่มปรากฏเมื่อผ่านพ้นช่วงข้าวใหม่ปลามันและคริสค้นพบอี้ชิงเป็นแม่บ้านที่ดี เอาใจใส่ อดทน เข้าหา ให้กำลังใจ ไม่เคยละเลยไม่ว่าจะเรื่องเล็กๆน้อยๆเป็นคนดีเสมอต้นเสมอปลายแม้ความรักจะไม่ฟู่ฟ่าเหมือนแต่ก่อนแต่คริสกลับเป็นแค่ไอ้ขี้เกียจที่ทำอะไรไม่เป็นแม้แต่แยกผ้าลงถังซักผ้า
ตอนเช้าอี้ชิงก็ต้องมาคอยปลุกลงจากเตียงไปเปิดน้ำรองใส่อ่างอาบน้ำไว้ให้ ผูกเน็กไท ทำกับข้าว ชาร์ตแบตโทรศัพท์ และเรื่องเล็กๆน้อยๆอีกมากมายที่คริสไม่เคยรู้เลยจนกระทั่งถูกลงโทษ
คริสไม่เคยเข้าห้างซื้อของด้วยตัวเอง ไม่รู้อะไรดีไม่ดีอันไหนครีมชีส อันไหนเชดดร้า อันไหนวิปปิ้งครีมซื้อมามั่วไปหมดสุดท้ายกินไม่ได้สักอย่าง ไหนจะกับข้าวเวลาที่เห็นภรรยาทำมันก็เหมือนทำง่ายๆแต่พอลงมือเองแค่รู้ว่าต้องรอน้ำมันเดือดคริสก็ขี้เกียจแล้ว

ถ้าอี้ชิงเลิกกับเขาจะหาคนรักใหม่ก็คงมีแต่คนอยากจะได้ทั้งนั้น...แต่กับคริสนี่สิ นอกจากคนที่อยากนอนด้วยกับเขาอยากได้ชื่อเสียงและหลงไหลในความหล่อแล้วจะมีใครที่ไหนมาทนนิสัยเขาได้เป็นปีๆเหมือนกับอี้ชิง...



คนที่ห่วยแตกไม่ได้เรื่องสักอย่างแท้จริงคือคริสเอง...


“ประสาท คิดอะไรฟุ้งซ่าน” อี้ชิงพูดเสียงสูงทำหน้าเอือมระอาก่อนจะใช้แขนยันตัวเองขึ้นนั่งแล้วเบือนหน้าหนีอีฝรั่งที่ยังมองมาตาปริบๆ มันก็เหมือนจะซึ้งอยู่หรอกแต่อี้ชิงซึ้งไม่ลงจริงๆ มันทุเรศทุกครั้งเวลาที่คริสพยายามจะใช้สมองกับเรื่องความรัก คิดนู่นคิดนี่อะไรก็ไม่รู้เขาถึงได้บอกว่าคริสเป็นพวกไม่ได้เรื่องด้านการใช้ชีวิต

ความรักและการมีชีวิตอยู่ไม่ใช่ธุรกิจจะได้มาคิดล่วงหน้าต้องวางแผนเป๊ะๆให้เป็นไปตามเป้าหมายแล้วก็คิดอะไรไปเละเทะถ้าจะบอกว่าอี้ชิงจะทิ้งคริสให้อยู่คนเดียวแล้วหนีไปมีสามีใหม่หละก็ลืมไปได้เลย
ทุกวันนี้ถ้าไม่รักจะมาทนบ่นซ้ำซากทำเรื่องเดิมๆทำไม คริสถอดถุงเท้าทิ้งไว้ที่โซฟาทุกวัน เขาเก็บไปลงตะกร้าทุกวัน บอกกี่ทีก็ไม่เคยฟังถ้าถามว่าไม่รักอี้ชิงจะมาตามเก็บตามเช็ดให้แบบนี้หรอ?

มีอะไรอีกที่อีฝรั่งมันทำซ้ำๆเดิมๆมาตลอดจะสองปี โทรศัพท์ไม่เคยชาร์ต เวลาเยี่ยวไม่เคยเอาฝาลองโถขึ้น สบู่ถูหน้ากูก็เอาไปฟอกไข่ ถอดกางเกงในม้วนเป็นเลขพอจะซักกูต้องมาคลี่ทีละตัวถ้าไม่ใช่เพราะรักที่ตัวตนมึงจะมีใครมานั่งทำเรื่องแบบนี้ให้?


“คริสพูดจริงนะ” คริสทำตาปริบๆพยายามส่งความจริงใจและความรู้สึกไปให้ศรีภรรยาคนดีรับรู้ เวลาพูดคุยเรื่องชีวิตทีไรอี้ชิงชอบเมินเขาแล้วก็ชอบทำเหมือนไม่ใส่ใจทุกทีจนบางทีคริสก็สงสัยว่าเพราะอะไร


“ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะพ่อคุณ ช่วยลุกไปกินยาซะด้วยจะไปทำกับข้าว” อี้ชิงลุกขึ้นหยิบหยิบชามโจ๊กเดินหายเข้าไปในครัวปล่อยให้อีฝรั่งนั่งจมอยู่กับความคิดอันดราม่าของตัวเองต่อไป


ทำมาเป็นกลัวจะโดนทิ้งงั้นงี้นิสัยตัวเองยังแก้ไม่ได้เลย เรื่องง่ายๆใกล้ๆตัวยังไม่เริ่มต้นทำแล้วคิดไปไกลถึงไหน
พวกนักธุรกิจนี่มองการไกลดี คิดไปอีกสิบปีว่าตัวเองจะโดนทิ้งเพราะทำตัวไม่ได้เรื่องแต่ถุงเท้าวางอยู่ตรงหน้ามึงยังไม่ยอมเอาไปใส่ตะกร้า








ค่ะ!!! มึงทำไปเถอะนิสัยแย่ๆ ทำไปอีกสิบปียี่สิบปี ผัวคนเดียวกูมีปัญญาดูแลได้มีหน้าที่ทำงานหาเงินก็หาไป ค่าใช้จ่ายไม่คล่องเมื่อไหร่นี่มีคุย!!!
















-TBC-








1 ความคิดเห็น: