อืออออ.....
ช่วงเวลาสายหลังจากที่อี้ชิงลืมตาตื่นและนอนนิ่งๆเหมือนคนตายมากว่า15นาที เขารู้สึกอยากจะร้องไห้เพราะอาการแสบจิมมี่และปวดเสียดในช่องท้องเพราะน้ำที่อีฝรั่งมันปล่อยเข้ามาจนเต็มไปหมดทั้งข้างหน้าและข้างหลัง เมื่อคืนพวกเขาจัดหนักกันแบบฟูลออฟชั่นจนแทบจะตายคาเตียงเพิ่งจะมาสงบเอาตอนตี4กว่าเกือบจะไม่ได้นอน แล้วตอนนี้ก็เช้าแล้วอี้ชิงมีหน้าที่ต้องตื่นจัดการงานบ้านเหมือนทุกวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ฮื่อ... ลูกสาวพิการเสียทรงหมด T_T
อี้ชิงยกท่อนแขนแกร่งที่กอดอยู่ที่เอวออกแล้วยันตัวลุกขึ้นนั่ง วันนี้เขามีงานบ้านหลายอย่างต้องทำแล้วเมื่อคืนอีฝรั่งมันก็สัญญาแล้วด้วยว่าจะช่วยงานเขาเพราะวันนี้ไม่ได้ไปทำงาน คนตัวเล็กยืนขึ้นอย่างยากลำบากเรียวขาสั่นระริกแทบจะล้มแถมยังต้องเดินถ่างขาเพราะถ้ามันเสียดสีกันหละก็แสบไปถึงทรวง
อี้ชิงเดินไปหยิบผ้าขนหนูเมื่อคืนที่ตกอยู่ที่พื้นมาพันรอบอกแล้วเดินไปเปิดสวิซต์ไฟก่อนจะวกกลับมาที่เตียงเพื่อปลุกสามีที่ตื่นแล้วแต่ยังแกล้งทำเป็นหลับเพื่อรอให้เขาปลุกอยู่
เหอะ....
“คริส ตื่นได้แล้ว” อี้ชิงชิงเดินไปเขย่าตัวชายหนุ่มเบาๆ เขาเห็นคริสกะพริบยิกๆเพราะแสงไฟจากบนเพดานก่อนจะลืมตาขึ้นด้วยสีหน้างัวเงีย
“อือออ...ตื่นแล้วครับ” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่คริสกลับยกท่อนแขนขึ้นบังตาจากแสงไฟทั้งยังหันหน้าหนีศรีภรรยาที่อุตส่าห์มาปลุกถึงเตียงอีกด้วย นี่ก็ไม่รู้ว่าอีฝรั่งมันจะมามุขไหนอีก บทเมียที่ดีอี้ชิงก็เล่นไปแล้ว บทเป็นคนดีปล่อยสัตว์ก็เล่นไปแล้วต่อไปก็เหลือแต่บทโหดแล้วนะคะมึง
“ตื่นสิคะ วันนี้สัญญาว่าจะช่วยทำงานบ้านไง” อี้ชิงใช้มือดึงแขนคริสที่ยกขึ้นบังตาออก วันนี้คริสมีนัดช่วยงานเขาและงานบ้านมันไม่ใช่ว่าจะทำง่ายๆนั่งๆนอนๆเซ็นต์แล้วเสร็จเหมือนงานบริษัท อีกอย่างตอนนี้ก็9โมงแล้วด้วยถ้าซักผ้าตอนนี้ก็จะได้ตากตอนเที่ยงพอดี
“คริสป่วย...” ว่าออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่าทำเสาะแสะเหมือนเมื่อวานไม่ผิด...
ป่วยเจี้ยเหิงมึงสิคะ...ไม่เนียนค่ะ ดีออก!!!
“ไม่ต้องมาลีลา ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้” น่าเสียดายที่คราวนี้มุขมันเก่าไปและไม่ได้ผล อี้ชิงไม่ยอมใจอ่อนหลงกล เขาจับเข้าที่ใบหูใหญ่ก่อนจะออกแรงดึงให้อีกฝ่ายลุกขึ้นมาจากเตียงด้วยความหมั่นไส้ คริสขมวดคิ้วนิ่วหน้าร้องโอดโอยราวกับจะเป็นจะตายทั้งๆที่อี้ชิงแค่กระตุกใบหูเท่านั้น
ทีเมื่อคืนมึงไม่เห็นสำออยแบบนี้!!
“โอ้ย~ อย่าใจร้ายสิคะ โอเคตื่นแล้วๆ” คริสแทบจะสร่างอาการงัวเงียเพราะไม่คิดว่าอี้ชิงจะเล่นบทโหด เขายอมลุกขึ้นนั่งบนเตียงเพราะถูกภรรยาดึงหูก่อนจะยกมือขึ้นป้องปากหาววอดๆระบายความง่วงงุน
“เมื่อคืนก็ให้รางวัลไปแล้ววันนี้ยังจะมาขี้เกียจอีก นิสัย” อี้ชิงจิกกัดสามีก่อนจะเดินไปหยิบเอาที่หนีบผมมาหนีบม้วนขึ้นไปด้านบน
“ก็เมื่อคืนออกแรงเยอะ ไข้กลับ วันนี้คริสเลยเพลีย”
อี้ชิงรู้สึกอยากจะขำให้ฟันหลุดกับคำพูดแถข้างๆคูๆของอีสามีตัวขี้เกียจที่ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดเข้าข้างตัวเองได้อย่างไม่อายปาก
สรุปคือกูผิดสินะ โดนมึงเอาก็ผิดเพราะทำให้ไข้กลับ เป็นผัวนี่ประเสิรฐจริงจริ๊ง!!
“งั้นถ้าเพลียคืนนี้ก็ไม่ต้องเอานะคะ”
“คริสล้อเล่นครับ” คริสหัวเราะออกมานิดๆก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงเดินไปกอดเอวภรรยาจากด้านหลังเอาไว้พร้อมกับวางคางเกยบนหัว เขาไม่ได้ตั้งใจเสแสร้งเพราะขี้เกียจหรอกแต่คริสแค่อยากจะแกล้งกวนประสาทภรรยาเล่นเฉยๆ
“ไปอาบน้ำไวๆเลย อี้จะลงไปอาบข้างล่าง คริสก็อาบบนห้อง” เพื่อเป็นการประหยัดเวลาอี้ชิงจะยอมลงไปอาบสบู่ข้างล่างเองเพราะถ้ามัวแต่โอ้เอ้แดดจะหมดซะก่อนไม่ทันได้ซักพ้าตากผ้า แถมวันนี้มีเสื้อตั้งหลายตะกร้าทั้งชุดลำลองชุดทำงานแล้วก็เสื้อผ้าเขา ไม่รวมถุงเท้าอีฝรั่งอีกหลายสิบคู่
“ก็อาบด้วยกันสิคะ” คริสยิ้มออกมานิดๆก่อนจะกอดกระชับเอวบางให้เข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น มันม่มีอะไรดีไปกว่าการได้อาบน้ำกับเมียตอนเช้าแล้ว
“เหอะ ฝันไปเถอะค่ะ ไปอาบน้ำได้แล้ว!” อี้ชิงตีมือเพลี๊ยลงบนหลังแขนอีฝรั่งก่อนจะแกะมือปลาหมึกออก นี่มันไม่ได้อยู่ในช่วงฮันนีมูนข้าวใหม่ปลามันที่เขาจะได้มานั่งปรนนิบัตอีตัวขี้เกียจนี่เช้าเย็น แค่งานบ้านกับภาระที่คริสทำทิ้งไว้แล้วเขาต้องไปจัดการมันก็เยอะมากพอแล้ว จะให้มามัวเสียเวลาลงอ่างบีบนวดแล้วก็โซเดมาค่อมต่อยันเที่ยงก็ไม่ไหว
อี้ชิงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเอาเสื้อกับเสื้อในและกางเกงขาสั้นเดินออกไปนอกห้องทันทีโดยที่ไม่สนใจว่าอีฝรั่งจะทำหน้าตาเป็นหมาหงอยขนาดไหน ยังไงวันนี้ก็ใจดีด้วยไม่ได้เด็ดขาดเดี๋ยวอีฝรั่งมันจะได้ใจ
คริสมองแผ่นหลังของภรรยาที่เดินหายลับออกไปจากห้องแล้วก็อมยิ้มออกมาน้อยๆ เขาคิดว่าบนโลกนี้ไม่มีใครจะเป็นกะเทยศรรือนได้เท่ากับจางอี้ชิงอีกแล้ว
.
.
.
.
.
.
.
.
ตอนนี้อี้ชิงยืนอยู่หน้ากองผ้า4ตะกร้าที่จะต้องซักให้หมดในเวลาก่อนบ่าย คริสนั่งอยู่กับพื้นขมวดคิ้วมองตะกร้าอย่างไม่ค่อยชอบใจก่อนจะเทเอาเสื้อในตะกร้าออกมา
“ทำไมต้องแยกผ้าด้วย” คริสถามออกมาด้วยความไม่เข้าใจพร้อมกับเขี่ยเสื้อผ้าตรงหน้าไปมา ทำไมเขาต้องมานั่งแยกผ้าก่อนซักด้วยทั้งกางเกงทั้งเสื้อทั้งๆที่ซักรวมๆกันไปก็จบเรื่อง
“เสื้อเชิ้ตเสื้อขาวคริสจะเอาไปซักปนกับกางเกงกับเสื้อยืดได้ไง สีตกใส่กันพอดี ชุดทำงานซักรวมกับเสื้อธรรมดาไม่ได้นะคะ” อี้ชิงอธิบาย เขาระบายยิ้มชั่วร้ายขึ้นมาบนใบหน้าเมื่อวันนี้เขะได้ดัดสันดานขี้เกียจของอีฝรั่สักทีงและลบคำสบประมาทที่คริสเคยพูดว่าเป็นเมียอยู่บ้านสบายๆไม่ต้องออกไปทำงานข้างนอกด้วย เดี๋ยววันนี้จะได้รู้ซึ้งเลยว่าเป็นเมียมันเป็นยังไง
อี้ชิงไม่ปฏิเสธว่าผู้หญิงที่มีผัวรวยไม่ได้ทำงานทำการนั้นอยู่สบาย แต่กับเขามันไม่ใช่ มันไม่ได้สบายก็เพราะมีคริสเป็นผัวนี่แหละ แทนที่จะได้ทำแค่งานบ้านระดับเบสิคปัด กวาด ซัก เช็ด ถูก็ต้องทำแบบครอบจักวาลทุกสิ่งอย่างแทบจะใส่รองเท้าให้
“แล้วทำไมไม่แยกตั้งแต่ตอนลงตะกร้า”
“เอ้า ก็อี้บอกคริสหลายรอบแล้วไงคะว่าให้แยกผ้าลงตะกร้าคริสเคยทำด้วยหรอ ที่รักก็ถามตัวเองสิ” อี้ชิงถึงกับหลุดขำเมื่อเห็นสามีทำหน้าเหนื่อยใจตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มงาน เขาเคยบอกบ่นคริสหลายรอบแล้วว่าให้แยกเสื้อกางเกงกับชุดทำงานออกจากกันแต่อีฝรั่งก็ไม่เคยสนใจเลย พอมาคราวนี้ก็บ่นตัวเองว่าทำไมไม่แยกเสื้อลงตะกร้า
คือกูเป็นคนทำหรอคะ....
“...............” คริสเถียงไม่ออกเพราะไอ้สิ่งที่อยู่ในตะกร้าเขาเป็นคนทำเองทั้งนั้น ก็ตอนแรกคริสไม่เข้าใจว่าผ้ามันต้องแยกก่อนซักเขาถึงได้ใส่รวมๆกันเพราะคิดว่าเวลาเอาลงเครื่องก็เอาลงพร้อมกันทีเดียวหมด ไม่คิดเลยว่าอี้ชิงต้องมานั่งแยกผ้าเป็นกองๆแบบนี้ทุกสัปดาห์
“แล้วคริสต้องแยกอันไหนไว้อันไหน”
“ก็ดูที่มันเป็นประเภทเดียวกันไง เสื้อเชิ้ตทำงานก็แยกตะกร้านึง กางเกงอีกตะกร้า เสื้อผ้าอยู่บ้านก็แยกอีกตะกร้าส่วนเสื้อขาวต้องซักมือ พวกชิ้นเล็กๆก็แยกไว้ด้วยกัน” อี้ชิงอธิบายอย่างละเอียดซึ่งคริสก็พยักหน้าหงึกๆเข้าใจเพราะมันเป็นงานง่ายๆที่แม้แต่เด็ก3ขวบก็ยังทำได้
“โอเคครับ เข้าใจ” คริสรับปากก่อนจะเทผ้าทุกตะกร้าออกมากองรวมกันเพื่อที่จะได้คัดแยกทีละชิ้นทั้งเสื้อ กางเกง ถุงเท้าและเน็คไท งานนี้ก็ไม่ยากเท่าไหร่ถือว่ายังพอรับมือได้
“แล้วทีหลังก็แยกผ้าด้วยนะคะ พอทำเสร็จแล้วก็เอาพวกชิ้นเล็กๆที่ซักง่ายไปเข้าเครื่องก่อนจะได้ตากก่อน”
“ครับ” คริสรับปากส่งเดช วันนี้ที่เขามาทำงานบ้านก็เพราะสัญญากับอี้ชิงไว้ว่าจะช่วยงาน อีกอย่างก็แค่อยากจะดูงานเฉยๆไม่คิดจะทำทุกวันหรอกเพราะงั้นเรื่องใส่ผ้าแยกตะกร้าลืมไปได้เลยเพราะเขาไม่คิดจะทำ เอาจริงๆคือเวลาถอดเสื้อเสร็จคริสไม่คิดจะโยนมันลงตะกร้าด้วยซ้ำ....
“เดี๋ยวจะมาดูนะคะ ถ้าทำดีจะให้รางวัล” อี้ชิงยิ้มกริ่มแม้ในใจจะไม่ค่อยไว้วางใจเท่าไหร่ก็เถอะ แต่ก็อย่างว่าหละงานมันง่ายๆไม่ได้ให้ซักมือเสียหน่อยอีฝรั่งมันคงไม่โง่ขนาดใช้เครื่องซักผ้าไม่เป็นถ้าเป็นแบบนั้นอี้ชิงคงผูกคอตาย
เขาเดินออกจากห้องซักล้างไปที่ห้องโถง กดเปิดทีวีดูรอเวลาไปตรวจงานอีฝรั่ง ไหนๆวันนี้คริสก็ทำงานบ้านแล้วก็ให้มันซะทุกอย่างไปเลยตั้งแต่ซักผ้า ตากผ้า กวาดบ้าน ถูบ้านส่วนเขาก็จะคอยคุมงานอย่างเดียวคริสจะได้หัดจัดการระเบียบด้วยตัวเองซะบ้าง ตอนนี้เก้าโมงกว่าๆแล้วเรื่องเวลาซักผ้าเขาคิดไว้แล้วว่าต้องซักตะกร้าไหนกี่นาทีถึงจะเสร็จทันก่อนแดดหมด ที่เหลือก็แค่รอให้คริสแยกผ้าเสร็จก่อนเท่านั้น
ครืน~ ครืน~
คริสมองดูเครื่องซักผ้าทำงานด้วยความสะใจ ในที่สุดเขาก็แยกผ้าเสร็จสักทีที่เหลือก็แค่ปล่อยให้เครื่องอำนวยความสะดวกจัดการไป จริงๆแยกผ้ามันก็ไม่ยากเท่าไหร่อย่างน้อยก็ไม่ยากอย่างที่คิด ชายหนุ่มเดินล้วงกระเป๋ากางเกงออกมาจากห้องซักล้างเดินไปหาภรรยาที่นั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟากลางบ้าน เขาเห็นศรีภรรยาส่งยิ้มมาให้นิดหน่อยแล้วก็ตบโซฟาที่นั่งข้างๆเป็นเชิงเรียกให้เข้าไปหา
“เอาผ้าลงเครื่องหรือยังคะ” อี้ชิงยิ้มหวนาจนเห็นลักยิ้มถามสามีที่เดินเข้ามาใกล้แล้วมาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ
“เอาพวกชิ้นเล็กลงตู้แล้วค่ะ” คริสเดินไปนั่งข้างภรรยาแล้วหันหน้าไปหอมฟอดเข้าที่แก้มเนียนแรงๆด้วยความหมั่นเขี้ยว เขาจำได้ว่าอี้ชิงบอกให้เขาซักพวกผ้าที่ซักง่ายแห้งเร็วก่อนเพื่อที่จะได้ตากทันแน่นอนว่าคริสก็ทำตามด้วย
“น่ารักมากค่ะ ตั้งซักกี่นาที ไปกวาดบ้านเลย” คนตัวเล็กออกคำสั่งเสร็จสรรพ ระหว่างรอให้ผ้าปั่นเสร็จจะมานั่งพักทำเบื้อกอะไรก็ไม่ได้ประโยชน์ขึ้นมาแล้วเขาก็ไม่เคยนั่งรอผ้าปั่นเสร็จด้วย
“ซักตั้งแต่สิบนาทีที่แล้วเหลือห้านาที พักก่อนไม่ได้หรอคะ”
“ไม่ค่ะ ไปเร็ว ลุกเลย” อี้ชิงยืนขึ้นจากโซฟาแล้วดึงแขนสามีให้ลุกตามเพื่อที่จะไปสาธิตวิธีกวาดบ้านให้กับสามีเผื่อเขากลับเกาหลีคริสจะได้ไม่ทำบ้านสกปรก อี้ชิงเดินไปหยิบไม้กวาดที่เอาออกมาวางเตรียมไว้ที่มุมห้องส่งยื่นให้กับคริสก่อนจะเดินถอยออกมาจากมุมแล้วชี้นิ้วไปที่เศษขี้ผงตรงซอกกำแพง
“กวาดจากมุมก่อนค่ะ”
“โถ่ คริสกวาดบ้านเป็นอยู่แล้ว” คริสเดินลากไม้กวาดไปเข้ามุมแล้วใช้ฝอยไม้กวาดเอาเศษขี้ผงออกมา เรื่องกวาดบ้านนี่มันง่ายๆอยู่แล้วใครๆก็ต้องเคยทำต่อให้ลูกคุณหนูขนาดไหนก็เถอะ
“ให้มันจริงเถอะ” อี้ชิงแสยะยิ้มร้ายปนกลั้นขำ ไอ้กวาดบ้านเนี่ยใครก็กวาดได้มันก็จริงแต่ถ้ากวาดให้สะอาดอี้ชิงเชื่อเลยว่ามีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นหละที่จะทำได้
คริสกวาดพื้นด้วยท่าทางจริงจัง เขาเดินถอยออจากกองขี้ผงเรื่อยๆแล้วหมุนตัวเดินไปกวามุมนั้นมุมนี้ๆที ของแค่นี้มันจิ๊บๆอยู่แล้วแม้แต่ผู้บริหารอย่างคริสเองก็กวาดบ้านมาตั้งแต่8ขวบ เขาเดินลากไม้กวาดไปมากวาดขี้ผงด้วยความตั้งใจโดยมีภรรยายืนมองอยู่ห่างๆ
คริสส่งไม้กวาดเข้าไปกวาดแยงรอดใต้ขาเก้าอี้ที่เป็นโต๊ะวางโน๊ตบุ้คแล้วถลุงขี้ผงไปอีกฝั่งเพื่อที่จะกวาดออกมา แต่พอไสไปไสมาฝอยไม้ก็เกี่ยวกับขาโต๊ะจนขนหลุดออกมาเต็มไปหมด
อะไรนักหนาวะ....
“หึๆ ทำไมคริสไม่เอาเก้าอี้ออกมาแล้วค่อยกวาดดีๆ เอาไม้กวาดไปแยงแบบนั้นขนมันก็ล่วงหมดสิคะ” อี้ชิงยิ้มขำเมื่อคริสเริ่มแสดงท่าทางไม่โปรฯออกมา เขาบอกแล้วว่ากวาดบ้านได้กับกวาดเป็นมันไม่เหมือนกัน แล้วดูที่คริสทำไม่ต่างอะไรจากเด็ก ป.2 กวาดบ้านแบบส่งเดชเลย
“อะไรที่ตกอยู่ที่พื้นก็เก็บขึ้นมาก่อนแล้วค่อยกวาดอย่าเท้าเขี่ย” อี้ชิงพูดดักเมื่อเห็นสามีทำท่าจะใช้เท้าเชี่ยสมุดที่ตกอยู่บนพื้นให้ไปพ้นทางไม้กวาด แล้วพอเดินไปกวาดตรงนั้นก็เขี่ยไปมาอีกนี่หละนิสัยพวกกวาดบ้านไม่เป็น
คริสถอนหายใจยาวยอมก้มลงหยิบสมุดโยนไปไว้บนโต๊ะแล้วก้มหน้าก้มตากวาดบ้านบริเวณพื้นที่ฝึกหัดต่อไป แต่เหมือนยิ่งกวาดขี้ผงก็ยิ่งหายไป คริสจำได้ว่าตอนไปกวาดจากมุมห้องโน้นขี้ฝุ่นมันมันเยอะกว่านี้ ไหงลากไปลากมาแล้วเหลือนิดเดียว?
Wow magic of ขี้ผง... มันหายตัวได้
คริสเดินลากเศษสิ่งสกปรกมากวาดกองรวมกันไว้ตรงหน้าเมีย เขารู้สึกตึงๆหลังเพราะต้องก้มๆเงยๆกวาดนู่นกวาดนี่ อี้ชิงไม่ได้พูดอะไรแค่ยกยิ้มแล้วดันที่ตักขี้ผงมาให้เท่านั้น คริสเลยจัดการกวาดเศษซากต่างๆขึ้นที่ตักเตรียมเอาไปทิ้งเป็นการปิดงานฝึกหัดภาคบังคับ
คริสพยายามกวาดเอาเศษขี้ดินเข้าที่ตักจนเกือบหมด แต่มันก็ยังเหลืออยู่นิดนึงที่ไม่ยอมขึ้นไปอยู่บนที่ตักผง คริสถอยที่ตักออกแล้วกวาดใหม่หลายครั้งทั้งพยายามกวาดมันให้เข้าแต่ก็ไม่เข้าสักทียังเหลือเศษที่ขอบที่ตักผงอยู่ ไม่ว่าจะกวาดยังไงก็ไม่ยอมเข้าจนเริ่มหงุดหงิด
เช็ด mother!!! กูไม่กวาดแม่งละไอ้เหี้ย!!!
“Why!” คริสสบถแล้วโยนไม้กวาดทิ้งลงพื้นอ่างไม่ไยดี เขามีปัญหากับมันมาตั้งแต่เด็กแล้วไอ้เรื่องกวาดขยะเข้าที่ตักแล้วเหลือเศษเนี่ย ไม่ว่ากี่ปีคริสก็ไม่สามารถจัดการกับมันได้เลยจริงๆ
“อะไรคะ แค่นี้ก็หงุดหงิด คริสยังไม่ได้กวาดอีกรอบเลยมันยังไม่สะอาดเลย” อี้ชิงหัวเราะคิกเมื่อเห็นสามีออกอาการหัวเสีย แค่กวาดขี้ผงให้เข้าที่ตักง่ายๆแค่นี้ก็ยังทำไม่ได้แล้วมาบอกว่าตัวเองกวาดบ้านเป็น
“คริสกวาดเสร็จแล้วไงคะ สะอาดแล้ว” คริสเถียง เขากวาดทุกซอกทุกมุมแล้วจริงๆแล้วก็กดไม้กวาดแน่นแล้วด้วย มองไปทางไหนก็ไมเห็นมีขี้ฝุ่นแล้วจะกวาดอีกรอบทำไม
“ยังค่ะ”
“ก็ดูสิคะ ไม่เห็นมีขี้ฝุ่นเลย” คริสเถียงหัวชนฝาเหมือนเด็กๆ เขารู้สึกเหมือนตัวเองย้อนกลับไปอยู่ในสถานการณ์ตอนที่แม่บังคับให้กวาดบ้านตอนเด็กๆยังไงก็ไม่รู้ พอคริสบอกว่ากวาดดีแล้วแม่ก็ชอบบอกว่ายังไม่สะอาดแล้วก็บอกเขาว่าถ้ายังกวาดเจอขี้ฝุ่นอยู่จะหักเงินค่าขนมแต่ไม่ว่าคริสจะเดินกวาดกี่รอบมันก็ไม่เคยหมดเลย มันต้องเป็นเวทมนตร์ของสิ่งสกปรกแน่ๆ
“มานี่” อี้ชิงก้มลงเก็บไม้กวาดมาถือแล้วเอื้อมมือไปคว้าข้อมือสามีลากไปที่มุมห้องก่อนที่จะลงไม้กวาดอีกครั้ง อี้ชิงแค่กวาดเบาๆค่อยๆไม่ต้องกดไม่กวาดมากแค่ไม่กี่ทีเศษสิ่งสกปรกมากมายก็ปรากฏตัวขึ้นใต้ฝอยไม้กวาดทำเอาคริสถึงกับขมวดคิ้วก่อนจะยิ้มออกมาทันที
“Wow…Magic of mom” คริสจำได้ว่าเขาชอบพูดคำนี้ตอนที่แม่ทำอะไรที่เขาทำไม่ได้อย่างพับผ้าปูที่นอนไม่เรียบ กวาดบ้านไม่สะอาด ถูบ้านเป็นคราบ ซักผ้าขี้ริ้วไม่หายดำแต่เวลาแม่ทำจะออกมาดูดีทุกอย่างเป็นเวทมนตร์ของสตรีจริงๆ
“เนี่ย แล้วพอถูบ้านมันก็สกปรกกว่าเก่าเข้าใจไหมคะ ให้ลองกวาดอีกทีอี้จะไปดูผ้าแล้วจะมาตรวจ กวาดเข้าไปในซอกด้วย” อี้ชิงเชื่อสนิทใจเลยว่าบนโลกนี้ผู้ชายมันกวาดบ้านไม่เป็นจริงๆถึงจะไม่ใช่ทุกคนก็เถอะ อย่างน้อยก็เขาหละที่ทำงานบ้านได้แต่ว่าตัดงวงมิสเตอร์จิมไปแล้วถือเป็นสตรีเพศค่ะ
“ห้ะ?”
“ไม่ต้องมาหา คราวนี้กวาดให้ทั่วนะคะ อี้จะไปตากผ้าดูผ้า” อี้ชิงจับไม้กวาดยัดใส่มือสามีก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องซักล้าง โดยปล่อยให้ค
ริสยืนทำหน้านิ่วอยู่คนเดียว
เครื่องซักผ้าตัวใหญ่หยุดทำงานไปแล้วเขาเลยหยิบตะกร้าที่วางอยู่ที่พื้นเดินไปเปิดฝาถังแล้วหยิบเอาผ้าที่คริสใส่ลงไปซักออกมา อี้ชิงขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็นว่าเสื้อในของเขาอัดอยู่เต็มถังทั้งๆที่จริงๆแล้วมันควรจะใส่ถุงสำหรับซักยกทรงก่อนแล้วถึงเอาไปซักลงเครื่องเพราะไม่งั้นมันจะเสียทรง แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกอี้ชิงจะไม่โกรธก็ได้หรอก ไหนๆอีฝรั่งมันก็อุตส่าห์พยายามเอาใจด้วยการรู้ดีผิดเวลาเอาเสื้อในเขาไปซักด้วย
“ที่รัก คราวหลังเสื้อในอี้ไม่ต้องซักนะ เดี๋ยวอี้ซักเอง” อี้ชิงตะโกนออกไปบอกสามีที่ยืนอยู่ด้านนอกกำลังกวาดบ้านอยู่ ปกติเขาจะซักพวกชั้นในด้วมือเพราะมันสะอาดกว่านอกจากตอนที่ขี้เกียจเท่านั้นถึงจะเอาใส่เครื่อง
อี้ชิงหยิบเอาเสื้อในชื้นๆที่มีสายพันกันรุงรังขึ้นยัดใส่ตะกร้ากะว่าจะเอาไว้คลี่ตอนตาก แต่เหมือนว่าสายเสื้อในเขามันจะไปพันกับก้อนเลขแปดสีดำยี่ห้อ Men Style ตัวหนึ่ง...นี่อย่าบอกว่าอีฝรั่งมันซักชั้นในเขาปนกับกางเกงในมัน แล้วที่สำคัญเสือกไม่คลี่ออกอีกต่างหาก...
แต่ว่าไม่เป็นไร ผัวเมียกันซักรวมได้ ให้อภัย...
อี้ชิงไม่อยากถือสากับคนทำงานบ้านครั้งแรก เขารีบโกยทุกอย่างใส่ตะกร้าเพื่อที่จะนำไปตากก่อนแต่พลันสายตาก็ไปสะดุดกับก้อนกลมๆสีดำๆเทาๆที่ตกอยู่ที่ก้นถัง อี้ชิงหยิบมันขึ้นมาทำหน้าแหยโดยที่ในใจก็ลุ้นว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่จินตนาการ
เขาคลี่ก้อนกลมๆนั้นออกช้าๆแล้วความจริงทที่ไม่อาจหลีกหนีก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า....
อีคริส!!!!!!
มึงซักกางเกงในปนกับถุงเท้า!!!! มึงเอาส้นอะไรคิด!!!!!
“คริส!!!! ทำไมเอาชั้นในมาซักปนกับถุงเท้า!! โอ้ยยยยย~!! แล้วมันสกปรกไหมเนี่ย!!!” อี้ชิงแทบจะเป็นลมคาตู้ซักผ้า ทั้งๆที่อุตส่าห์ไว้ใจให้ช่วยงานแต่นี่มันเพิ่มภาระชัดๆ แล้วนี่มันมีทั้งกางเกงในเขาและของคริสเอง อีฝรั่งมันคิดได้ยังไงว่าซักรวมกันได้!!
กูขอให้สังฆังคิ๊กคิ๊กสะระณังแดกไข่มึง!!!
“ก็ที่รักบอกให้ซักชิ้นเล็กๆก่อนไงคะ” เสียงคริสเดินเข้ามาใกล้ขึ้นคงจะมาชื่นชมผลงานที่ทำไว้ อี้ชิงนึกอยากจะร้องไห้ให้ได้ ไม่คิดเลยว่าอีฝรั่งมันจะโง่ขนาดเอาถุงเท้าไปซักปนกับชุดชั้นใน
ก๊าสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส!!! กระเทยจะพ่นไฟแล้วนะมึง!!!!!!!!
“โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย~!! ตายแล้ววววววววววววว!!!!!”
.
.
.
.
.
.
.
เวลาบ่ายสี่โมงกว่าๆ อี้ชิงนอนคว่ำหน้าหมดแรงอยู่บนโซฟาโดยมีผัวทำหน้าที่คอยทำหน้าที่บีบนวดให้ เขารู้สึกปวดเคล็ดไปทั้งตัวและ
เหนื่อยเป็นสองเท่าจากการทำงานบ้านปกติเพราะมีอีฝรั่งมาช่วยด้วย ถ้าเป็นปกติเขาทำเองคงไม่เหนื่อยขนาดนี้
อี้ชิงต้องเอาเสื้อในกางเกงในทั้งของตัวเองและของผัวไปซักมือใหม่แล้วก็แยกผ้าใหม่รวมทั้งตากผ้าบลาๆๆ พอกลับเข้าบ้านหลังจากตากผ้าอีฝรั่งก็รู้ดีถูบ้านซะเปียกโชกต้องเอาไม้ถูแห้งมาถูอีก เท่านั้นไม่พอคริสยังซักไม้ถูไม่สะอาดทำให้บ้านเป็นคราบเมือกๆสกปรกเต็มไปหมดแล้วเขาก็ต้องตามไปถูซ้ำซากแล้วก็ต่อด้วยการปัดกวาดชั้นสอง เก็บห้องนอน พับผ้านวม รีดเสื้อ บลาๆๆๆๆจนแทบจะหมดแรงตายเพราะได้ผู้ช่วยมือดีมาช่วยจัดการงานบ้าน....
สัส.....
“กินน้ำเย็นๆไหมคะ คริสจะไปเอามาให้” คริสหัวเราะแห้งๆออกมาเมื่อเห็นสภาพภรรยานอนนิ่งเหมือนคนตายเพราะเหนื่อยมาก เขาไม่มีอะไรจะแก้ตัวจริงๆเพราะตลอดชีวิตมานี้คริสเองก็ไม่เคยต้องทำงานบ้านยกเว้นพวกงานง่ายๆและไม่คิดเลยว่าการช่วยงานครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มภาระให้ศรีภรรยา
“ฮื่อออออ คราวหลังไม่ต้องหวังดีแล้วนะคะ ไม่เอาแล้ว ทำงานหาเงินอย่างเดียวก็พอ” อี้ชิงรู้สึกเหมือนจะตายให้ได้ นี่ผ้าอีกตะกร้าที่ซักอยู่ก็ยังไม่ได้ตาก แล้วเขาจะต้องเป็นคนไปจัดการใช่ไหม ทำไมมันเหนื่อยแบบนี้
“วันนี้ที่รักอุตส่าห์ทำงานจนเหนื่อย เดี๋ยวคืนนี้คริสให้รางวัลนะคะ”
“ไม่!!!” อี้ชิงปฏิเสธทันทีอย่างไม่คิด จะมารางวลรางวัลอะไรเขาไม่อยากได้สักนิด จะหาประโยชน์ให้ตัวเองแท้ๆดันมาอ้างว่าจะให้รางวัล
“งั้นอี้อยากกินไร เดี๋ยวคริสทำให้” คริสคิดว่าถ้าเขาได้ตอบแทนภรรยาด้วยการทำอาหารให้สักมื้อมันคงดีไม่น้อย คงจะเป็นอะไรที่โรแมนติกดีที่สามีตอบแทนภรรยาด้วยการทำอาหารเย็นให้
“ไม่เอาค่ะ เดี๋ยวอี้ทำเอง คริสนั่นแหละอยากกินอะไร” อี้ชิงยิ้มแหยเมื่อนึกว่าคริสจะทำอาหารให้กิน ขนาดสปาเก็ตตี้กับซอสสำเร็จรูปซื้อมาให้อีฝรั่งมันยังไม่มีปัญญาทำกิน มีหวังให้คริสทำอาหารคงได้กินเบียร์กับมันฝรั่งเป็นอาหารเย็น
“แต่ว่าคริสอยากทำให้จริงๆนะคะ” คริสไปพร้อมกับบีบนวดขาภรรยาไปด้วย เขาพอทำกับข้าวง่ายๆได้อย่างต้มไข่ ไข่ทอดงี้หรือถ้าอี้ชิงอยากจะกินสปาเก็ตตี้ก็แค่ลวกเส้น ลวกเห็ด ลวกมีทบอลใส่ผักชีส่วนซอสสำเร็จก็มีอยู่แล้วไม่น่าจะยากอะไร
“ไม่ต้องค่ะ ไม่ต้องสะแหลนเลย เดี๋ยวอี้ทำเอง วันนี้ทำงานเหนื่อยอี้ก็อยากกินอะไรที่มันอร่อยๆรสชาติที่ผู้คนเขากินกัน” ใช่แล้ว วันนี้อี้ชิงใช้พลังงานไปเยอะเขาต้องการกินกราแตงหรืออะไรที่มันเป็นอาหารอร่อยๆทำเองไม่ใช่พวกกับข้าวกึ่งสำเร็จหรืออาหารประเภทสารอาหารน้อยอะไรแบบนั้น
“เหนื่อยหรือเปล่าคะ” คริสย้ายตัวเองขึ้นไปนั่งบนโซฟาแล้วยกขาภรรยาขึ้นพาดตัก วันนี้เขาทำให้อี้ชิงเหนื่อยมากจริงๆแล้วตัวเองเองก็รู้สึกแย่ด้วยที่ทำให้ภรรยาต้องเหนื่อยขนาดนี้
“อื้อ~ เหนื่อย~” อี้ชิงพลิกตัวนอนหงายก่อนจะยันกายนั่งบิดคอไปมาด้วยความเมื่อยล้า คริสเอื้อมแขนมารวบเอวเขาแล้วดึงตัวขึ้นไปนั่งบนตัก อี้ชิงไม่ได้ขัดขืนแต่ปล่อยตัวให้อ่อนไปตามแรงดึง เขารู้สึกปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัวเหมือนกระดูกจะหลุดออกจากข้อต่ออย่างนั้นแหละ
“ขอโทษนะคะ คริสไม่รู้จะตอบแทนยังไง” คริสซบหน้าลงกับไหล่ภรรยาอย่างรู้สึกผิด เขาไม่ได้ตั้งใจทำให้อี้ชิงรู้สึกไม่ดีจริงๆแต่คริสแค่ไม่รู้ว่าควรจะต้องทำยังไงเพื่อที่จะแบ่งเบาภาระของภรรยา
“หื้อ~ อี้ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ ถ้าอยากตอบแทนก็ช่วยทำงานหาเงินเยอะๆมาให้ใช้อี้จะได้ไม่เหนื่อย” อี้ชิงพูดติดตลกเพราะไม่อยากให้สามีคิดมาก เขารู้ว่าคริสเป็นพวกเพ้อเจ้อคิดเยอะพอกันแต่ต่างกันแค่ตรงที่คริสชอบคิดอะไรซับซ้อนแบบไม่ปกติ จนบางทีเขาก็ตามไม่ทันว่า คริสกำลังคิดอะไร
“ครับ สมบัติเนี่ยยกให้หมดเลย” คริสพูดทั้งๆที่ยังซบหน้าอยู่กับไหล่ภรรยา ถึงจะพูดแบบนั้นแต่เอาจริงๆทั้งรถทั้งบ้านก็เป็นชื่อคริสทั้งหมด แล้วมันกอดนึกไม่ได้ว่าถ้าสมมุติวันนึงพวกเขาเลิกกันอี้ชิงจะมีอะไรติดตัวไปบ้าง ถึงแม้ว่าอี้ชิงจะมีทะเบียนสมรสไว้ฟ้องเอาเงินแต่เขาก็เชื่อว่าอี้ชิงไม่มีทางทำแบบนั้นและแน่นอนว่าคริสแค่สมมุติเท่านั้นเพราะเขาจะไม่มีทางเลิกกับภรรยา
“อื้อ แต่อี้ว่าอี้จะไปทำงานนะ คิดว่าอยากกลับเกาหลี” อี้ชิงลองพูดหยั่งเชิงถึงเรื่องที่เขาจะกลับเกาหลี อยู่ที่นี่มันไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่เพราะเขาไม่รู้จักใครแล้วก็ไม่ได้ออกไปเที่ยวด้วย อี้ชิงหมายถึงเที่ยวห้างแบบทั่วไปไม่ได้หมายถึงเที่ยวกลางคืนเพราะตอนอยู่ที่นี่จะไปไหนทีก็ต้องพึ่งคริสบ่อยๆ
“จะกลับทำไมคะ ไม่เอานะ” คริสกอดกระชับเอวภรรยาให้แน่นขึ้น ไม่รู้ว่าอี้ชิงยังโกรธเรื่องผู้หญิงอยู่หรือเปล่าแต่คริสไม่ยอมให้คนตัวเล็กกลับเกาหลีแน่ เขาอยู่คนเดียวไม่ได้
“ก็ถ้าคริสไม่ว่างก็ไม่ต้องไปก็ได้นี่คะ อี้แค่จะกลับไม่กี่อาทิตย์”
“ไม่ครับ ไม่ให้กลับ” คริสรู้ว่ามันฟังดูเห็นแก่ตัวแต่ถ้าต้องให้เขาทรมานอยู่คนเดียวคริสก็ทำใจไม่ได้เช่นกัน
“หึๆ ไม่กลับก็ไม่กลับที่รักอยากกินไร” คนตัวเล็กเอนหลังพิงตัวสามีอย่างน่ารัก อี้ชิงจะยอมทำตามทุกอย่างที่คริสอยากให้ทำ แค่เขาได้ความรักและมีชีวิตใหม่แค่นี้ก็ดีเหนือสิ่งอื่นใดแล้ว คริสไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟคเป็นพ่อบ้าน อ่อนโยนหรือว่าอะไรเพราะทุกวันนี้อี้ชิงก็รักที่คริสเป็นคริส ต่อให้ขี้เกียจตัวเป็นขนเขาก็ยืนยันว่าจะรักสามีคนนี้แค่คนคนเดียว หรือเอาคนที่เพอร์เฟคกว่านี้มาล่ออี้ชิงก็คงไม่ไปไหนเพราะหัวใจมันรักไอ้ตัวขี้เกียจไปแล้ว
“อะไรก็ได้ครับ รีบไปทำเถอะ หิวแล้ว” คริสยอมคลายอ้อมกอดแล้วปล่อยให้ภรรยาลุกไปทำอาหาร วันนี้ทั้งวันเขายังไม่ได้กินข้าวเลย เมื่อคืนก็ใช้พลังเยอะแถมตื่นมาก็ต้องทำงานบ้านอีก คริสหิว คริสเหนื่อย คริสอยากกินข้าว คริสอยากอ้อนเมีย~
อี้ชิงเดินยิ้มหายเข้าไปในครัวเพื่อไปเตรียมทำอาหารเย็นทิ้งให้สามีนั่งๆนอนๆดูทีวีฆ่าเวลาไปก่อน ถึงวันนี้คริสจะสร้างปัญหามากมายให้เขาเหนื่อยกว่าทุกวันแต่อี้ชิงก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวันนี้เป็นวันที่มีความสุขจริงๆเพราะปกติทุกวันถ้าคริส ออกไปทำงานเขาจะอยู่บ้านคนเดียวเหงาๆแต่พอมีอีฝรั่งมาคอยกวนใจถึงจะเป็นการสร้างภาระแต่มันก็ทำให้อี้ชิงรู้สึกอบอุ่นขึ้นอย่างน่าประหลาด เหนือสิ่งอื่นใดมีผัวกวนใจดีกว่าอยู่ตัวคนเดียว…
คริสให้หลายสิ่งหลายอย่างกับเขามามากพอแล้วทั้งชีวิตใหม่ ความรัก ความซื่อสัตย์แล้วก็ให้คุณค่าและให้เกียรติในตัวอี้ชิงมาโดยตลอดซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่ได้หาง่ายๆหากเขายังอยู่ในสังคมแบบเดิมๆแค่นี้มันก็เพียงพอที่อี้ชิงจะยอมทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนสิ่งที่คริสมอบให้กับเขา การได้เจอคริสเป็นเรื่องที่โชคดีมาก เขารักผู้ชายคนนี้มากจริงๆถึงคริสจะขี้เกียจ ขี้เอา ไม่เอาไหนนอกจากงานจับปากกาแต่คนมันรักไปแล้วก็ช่วยไม่ได้
อี้ชิงไม่อยากคิดว่าอะไรนอกเหนือจากปัจจุบัน จากวันแรกที่คบกันอี้ชิงไม่เคยนึกเลยว่าในอนาคตคริสจะมีใคร จะไปรักใคร จะทิ้งเขาหรือว่าจะเลิกนิสัยเจ้าชู้ไม่ได้ อี้ชิงคิดเพียงแค่ว่าวันนี้เขารักคริสแล้วก็ต้องดูแลความรักวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วก็คิดแบบนี้มาสองปีแล้วไม่ว่าจะอีกกี่ปีข้างหน้าก็จะคิดแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
มีแต่อีฝรั่งนั่นแหละที่ชอบคิดอะไรเฟอะฟะจนบางทีเขาก็รู้สึกเพลียกับความคิดมากของคริส คราวก่อนก็บอกจะซื้อบ้านให้จะเขียนพินัยกรรม จะเขียนนั่นเขียนนี่เพราะกลัวว่าถ้าวันนึงหย่ากันแล้วเขาจะไม่มีสมบัติติดตัว คืออี้ชิงก็ไม่ได้อะไรหรอกแต่ในพินัยกรรมที่คริสร่างขึ้นนี่มันยกให้ทั้งบริษัทของพ่อ บัญชีฝากส่วนตัว บ้าน ที่ดิน อะไรก็ไม่รู้ ถึงต่อให้เขาได้ไปก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรหรอก ทุกวันนี้ก็อยู่บ้านเดียวกับคริส รถก็ขับไม่เป็น เงินเดือนไม่มีแต่ทำงานหนักยิ่งกว่ากรรมกร
ถ้าถามว่าทำทุกวันนี้ได้อะไรอี้ชิงก็ขอตอบเลยว่าได้ความรักได้ความสุข เขาไม่ต้องการอะไรที่เป็นสินทรัพย์ ถ้าวันนึงพวกเขาจะหย่ากันจริงๆสิ่งที่อี้ชิงอยากได้ก็คือความรักจากคริสเพราะมันจะต่อชีวิตคู่ให้นานขึ้นไม่ใช่เรื่องจะต้องมาคิดว่าถ้าแยกกันสมบัติจะเป็นของใคร
แล้วถ้ามองตามความเป็นจริงถามว่าคนที่อยากหย่าคืออี้ชิงหรอ? ก็ไม่ใช่เพราะมันไม่มีเหตุผล คนที่อยากจดทะเบียนคือ คริสเอง คนที่กลัวการหย่าที่สุดก็คือคริส ง่ายๆแค่นี้ไม่ต้องคิดซับซ้อนก็คือมันไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะต้องไปคิดถึงอนาคตว่าจะหย่ากันแค่ทุกวันนี้รู้ว่ายังรักกันอยู่ก็พอแล้ว
อี้ชิงเดินไปเปิดตู้หยิบมันฝรั่งออกมาเตรียมล้างทำกราแตงสำหรับกินคืนนี้ เขาอุตส่าห์คิดว่าจะลดอ้วนเพราะช่วงนี้น้ำหนักขึ้นแต่วันนี้มันหิวจริงๆก็ช่วยไม่ได้ อี้ชิงหยิบเอามันฝรั่งจากตู้ด้านบนนำไปแช่น้ำเตรียมล้างก่อนจะเดินไปวอร์มเตาอบแล้ววกไปที่ตู้เย็นเพื่อค้นชีทต่างๆและแฮม
อี้ชิงกวาดชีททุกประเภทไปจากตู้เพื่อที่จะได้ใส่ให้หนำใจเพราะรู้ว่าอีฝรั่งชอบกินชีทจะได้จัดเต็มให้มัน ไหนๆวันนี้ก็อุตสาห์มาช่วยป่วนซะเหนื่อยต้องเติมพลังให้เขาหน่อย....
คริสนอนกระดิกเท้าไปมารอภรรยาทำกับข้าวเสร็จ เขาเปลี่ยนช่องจากข่าวการเมืองไปดูตลาดโลกแล้วก็กดเปลี่ยนไปเรื่อยอย่างไม่รู้ว่าจะดูอะไรดี งานก็ไม่มีทำเพราะยกให้เลขาทำหมดแล้ว จากที่แกล้งป่วยก็โดนจับไต๋ได้เลยไม่มีอะไรทำไปอีกหลายวันนอกจากนั่งๆนอนๆกินข้าวดูหนัง
ตอนนี้คริสกำลังคิดว่าเขาจะทำอะไรดีกับเวลาที่ว่างจนเหลือเฟือ ไปช้อป ไปเที่ยว นอนเฉยๆ หรือว่าทำอะไร ช่วงก่อนหน้านี้เขาเครียดกับงานมากเลยทีเดียวแต่พอผ่านพ้นก็เรียกได้ว่าลอยรำสบายไปเลย บางทีถ้ากลับเกาหลีช่วงนี้กับอี้ชิงก็คงจะดีเหมือนกัน อี้ชิงจะได้เจอเพื่อนๆโดยอยู่ในการดูแลของเขาด้วย
ถ้าไปตอนนี้ก็มีเวลาว่างปรมาณ2สัปดาห์ที่จะพาภรรยาไปเที่ยวไม่ว่าที่ไหนคริสก็จะไปทั้งนั้นแต่ต้องถามอี้ชิงด้วยว่าเจ้าตัวอยากไปที่ไหน คริสอยากตามใจเมียสักสองอาทิตย์เป็นการตอบแทนระยะเวลาสองปีที่อี้ชิงยอมอยู่ที่นี่เพื่อเขาทั้งๆที่ไม่รู้จักใคร พูดภาษาเดียวกันก็ไม่ได้ เป็นคนที่อยู่ง่ายกินง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ ไอ้นั่นก็ไม่อยากได้ไอ้นี่ก็ไม่อยากได้ เรียกได้ว่ามีชีวิตอยู่เพื่อดูแลคริสโดยเฉพาะจริงๆ เพราะอย่างนั้นเขาก็ควรจะตอบแทนภรรยาบ้าง...
“ที่รัก....คริสหยุดสองอาทิตย์อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่าคะ…”
-TBC-
Talk
พาร์ทนี้ขอโนคอมเม้นกับอีเฮีย คือไรเตอร์ค่อนข้างเครียดกับหลายๆอย่างก็เลยได้ระบายกับฟิค ก็ดีขึ้นนะ 55555 รู้สึกรักรีดเดอร์ทุกคนมากเลยค่ะ รักมาจริงๆถึงจะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นซับซ้อนแต่ทุกคนก็ยินดีให้ความร่วมมือและแก้ปัญหา *ร้องไห้ซึ้งใจ* ขออภัยในความไม่สะดวกด้วยนะคะ :)
จริงๆก็เครียดมากแต่ก็ยังไหวอยู่ซึ่งตอนนี้โอเคแล้วไปจัดNCให้หายเศร้ากันเถอะค่ะ 55555 ขอบคุณที่อ่านค่ะ อย่าลืมคอมเม้น+โหวตและสกรีมผ่านtag #sweetkray กันด้วยนะคะ XD
เอ็นจอยรีดดิ้ง!!!!
พาร์ทนี้ขอโนคอมเม้นกับอีเฮีย คือไรเตอร์ค่อนข้างเครียดกับหลายๆอย่างก็เลยได้ระบายกับฟิค ก็ดีขึ้นนะ 55555 รู้สึกรักรีดเดอร์ทุกคนมากเลยค่ะ รักมาจริงๆถึงจะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นซับซ้อนแต่ทุกคนก็ยินดีให้ความร่วมมือและแก้ปัญหา *ร้องไห้ซึ้งใจ* ขออภัยในความไม่สะดวกด้วยนะคะ :)
จริงๆก็เครียดมากแต่ก็ยังไหวอยู่ซึ่งตอนนี้โอเคแล้วไปจัดNCให้หายเศร้ากันเถอะค่ะ 55555 ขอบคุณที่อ่านค่ะ อย่าลืมคอมเม้น+โหวตและสกรีมผ่านtag #sweetkray กันด้วยนะคะ XD
เอ็นจอยรีดดิ้ง!!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น