วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2557

[ทหารเสือ] EP.1 ครอบครัวสุขสันต์.....




“แม่ครับ...ผมจะตั้งใจเรียน จะต้องทำความหวังของคุณแม่ให้เป็นจริงให้ได้...”

“ดีมากลูก แม่เห็นลูกเป็นเด็กดีเชื่อฟังแบบนี้แม่ก็ดีใจ”

“ผมรักแม่ที่สุดเลย...” เด็กชายตัวเล็กโถมกายเข้ากอดผู้เป็นแม่ที่นั่งกินข้าวอยู่ที่โต๊ะอาหารไว้แน่นด้วยความรักที้นใจ คล้ายกับได้ยินเสียงดนตรีหวานซึ้งดังอบอวลอยู่ในรูหูเมื่อคิมไม่ทันน้องชายคิมทันโถมตัวเข้ากอดผู้เป็นแม่ไว้พร้อมกับให้สัตย์สัญญาหนักแน่นว่าจะเป็นเด็กดี





อี้ชิงระบายยิ้มออกมาอย่างสุดซึ้งเมื่อซีรีย์เกาหลีตอน9โมงเช้าช่างน่าประทับใจเหลือเกิน กล้องแพลนไปรอบๆตัวพระเอกและนักแสดงหญิงช้าๆก่อนที่ภาพจะตัดเข้าโฆษณา ตอนนี้สิบโมงกว่าแล้วอีกไม่กี่ตอนซีรีย์ก็จะจบเขาก็จะได้ไปทำงานบ้านต่อหลังจากวาดฝันสวยหรูอยู่กับจินตนาการมานาน
หูแว่วได้ยินเสียงดังตึงตังมาจากบนห้อง อี้ชิงถึงกับถอนหายใจยาวเหยียดเมื่อนึกถึงคุณลูกชายที่ตัวเองมีในชีวิตจริง.... เฮ้อ....เฮ้อ....เฮ้อ....เฮ้อ.... นึกออกอยู่คำเดียว....

หลังจากที่คลอดลูกมาจนตอนนี้ลูกชาย3ขวบกว่าจะ4ขวบแล้ว อี้ชิงก็ไม่เคยได้สัมผัสคำว่าสงบสุขอีกเลย ชีวิตเขาวุ่นวายทุกเช้าไม่มีวันไหนที่บ้านจะสงบนิ่งเหมือนคนปกติเขาอยู่กัน นึกแล้วก็อยากจะถอนหายใจอีก....รู้สึกคิดถึงแม่ขึ้นมา น้ำตามันก็ไหล ไม่เคยนึกเลยว่าคนเป็นแม่จะต้องเหนื่อยขนาดนี้ นี่ก็ทนปลอบใจตัวเองมาตั้ง4ปีว่าเดี๋ยวลูกก็โต เดี๋ยวลูกก็โต จนป่านนี้ก็ยังไม่โตสักที....


“คุณแม่คร้าบ!!


“ว้ากกกกกกกกกก!!!” เสียงร้องโหวกเหวกดังลงมาจากชั้นสอง เพียงไม่นานเสียงเท้าย่ำลงบันไดตึงๆๆราวกับม้าควบก็ดังสนั่นจนรู้สึกเหมือนกับว่าบ้านจะพังโครมทั้งหลัง อี้ชิงนั่งมองบันไดอย่างตั้งใจคอยดูว่าเมื่อไหร่เจ้าของเสียงเรียกจะลงมาสักที


“คูณแม่~~~~~” เด็กชายตัวเล็กผมตั้งในชุดกางเกงยีนส์สุดเฟี้ยวกับเสื้อเชิ้ตหล่อลากและแว่นเรย์แบรนด์สุดเก๋วิ่งลงมาจากบันไดสาวเท้ารัวตึกๆๆวิ่งไปหาผู้เป็นแม่ที่นั่งอ้าแขนรออยู่ที่โซฟาด้วยความเร็วสูง อี้ฟานที่2วิ่งนำน้องชายาฝาแฝดเข้าไปประชิดตัวคุณแม่คนสวยก่อน ก่อนจะกระโดดขึ้นไปทับคุณแม่ทันที


“โอ้ย น้องอู๋อย่าทับท้องคุณแม่สิคะ คุณแม่บอกกี่รอบแล้วว่าอย่าวิ่งลงบันได” อี้ชิงเบ้หน้าเมื่อลูกชายกระโดดขึ้นมาทับท้องเขาอย่างรวดเร็วจนรู้สึกจุก และเพียงไม่นานคุณชายอี้ฟานที่3ก็วิ่งกระโดดขึ้นมาทับอีกแรงกระแทกเข้าเต็มนมจนเจ็บไปหมด




T__T นี่มึงเห็นแม่เป็นตัวอะไรกันน!!



“คุณแม่~ คุณพ่อบอกว่าเมื่อคืนได้กินนม ทำไมน้องอู๋ไม่ได้กิน~


“คุณแม่ขี้โกง~” สองเสียงเล็กๆของลูกชายวัยสี่ขวบดังขึ้นสมทบกันราวกับบี1และบี2ในกล้วยหอมจอมซน นี่ไม่ต้องบอกอี้ชิงก็รู้เลยว่าอีฝรั่งมันไปเล่าอะไรให้ลูกฟัง คงเป็นการพูดจาเกทับตามภาษาพ่อลูกอีกตามเคย แล้วพอมีคนแพ้ก็ไม่ยอมกันมาขอเอานู่นเอานี่จากคุณแม่ราวกับเห็นว่าอี้ชิงคนนี้มีกระเป๋าโดราเอม่อนี่ดึงทุกสรรพสิงบนโลกมาให้ได้ 



โอ้ย~ กะเทยอยากจะบ้าตาย มึงยอมกันสักเรื่องไม่ได้เลยหร๊อ!!



“เป็นเด็กห้ามกิน” ไม่ทันที่อี้ชิงจะได้อ้าปากเอ่ยอะไร อีผัวตัวต้นเหตุก็เดินลงมาใส่ชุดเสื้อผ้าจัดเต็มอย่างกับหลุดมาจากแคทวอล์ค กางเกงขาย้วยหมวกปีกกว้างอย่างกับกันสาด แว่นกันแดดกับรองเท้าไนกี้หุ้มข้อ....



มึงทำอะไรกัน!!



“ตอนเด็กคุณแม่บอกว่าฟ่านก็ได้กิน! คุณพ่อขี้โกหก”


“เอ้อๆๆ ได้กินทุกคนแหละ แล้วนี่จะทำอะไรกันครับ ทำไมใส่รองเท้าในบ้าน” อี้ชิงรีบจบประเด็นและขึ้นคำถามใหม่เพราะเขาขี้เกียจต่อกรกับอีคุณชายทั้งสามคน เดี๋ยวจากศึกเล็กจะรามกลายเป็นมหากาฬชิงหนองโพไปเสียก่อน อีตัวพ่อก็ปัญญาอ่อนแทนที่จะห้ามลูกกลับยุแหย่อะไรนิดๆหน่อยๆก็ยอมกันไม่ได้เลยจริงๆแม้แต่กับลูกกับเต้า



เฮ้อ...เสือสามตัวมันอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้จริงๆ



“คนไม่หล่อหมดสิทธิ์!” คริสโพล่งขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ลูกชายทั้งสองคน ไอ้สองอู๋ตัวแสบนี่มันก็แสบซะเหลือเกินจริงๆ แบบนี้จะให้เขายอมให้มันอ้อนแม่คนเดียวได้ยังไง อี้ชิงเคยเป็นของเขามาก่อน เมื่อก่อนคริสขออะไรก็ได้แต่เดี๋ยวนี้เอะอะๆให้ลูกก่อน ใครจะไปยอม ไม่ใช่คริสไม่รักลูกหรอก เขาเองก็ให้ลูกได้เหมือนกันแต่ที่ยอมไม่ได้คือไอ้สองอู๋ตัวแสบมันอ้อนเพราะอยากเอาชนะนี่สิแถมอี้ชิงยังหลงกลอีกด้วย


“อู๋หล่อ”


“พ่อหล่อกว่า”


“ฟ่านหล่อที่สุด”


“เอ้อออออ!! หล่อกันทั้งนั้นแหละ หล่อเทวดาหาใครเทียบไม่ได้แล้วพ่อคู๊ณ~ แล้วนี่จะไปไหนกันครับ แต่งตัวอะไรเนี่ย” อี้ชิงขมวดคิ้วมองคุณลูกแฝดทั้งสองสลับกับคุณพ่อที่ยืนอยู่ที่หัวบันได นี่แต่งตัวเต็มยศยิ่งกว่าออกไปเที่ยววันสุดสัปดาห์จะไปเดินแคทวอล์คหรือว่ายังไงกัน


“คุณพ่อบอกว่าคุณแม่ชอบคนหล่อ ถ้าไม่หล่อคุณแม่จะไม่รัก” อี้ฟานที่3ตอบอย่างฉะฉานพร้อมกับยกแขนเล็กๆขึ้นคล้องคอคุณแม่เอาไว้แล้วเอนหัวซบไหล่ ทำให้อี้ชิต้องหันไปมองค้อนใส่สามีตัวดีที่สอนอะไรผิดๆให้ลูกแล้วก็ดูแต่งตัวเพี้ยนอะไรกันมาอวดคุณแม่ก็ไม่รู้ทำอย่างกับหลุดออกมาจากหนังสือ

อีกคนก็เอาเสื้อกันหนาวมาผูกเอว อีกคนใส่รองเท้ากีฬากับเสื้อผ้าอินดี้ แล้วตัวพ่อนี่กางเกงย้วยๆกับหมวกปีกกว้าง.... จริงๆเขาก็ไม่ใช่พวกเซียนแฟชั่นหรอก แต่ในฐานะคนธรรมดาเห็นแล้วขำจะบ้า....


“โถ่ ลูกชายคุณแม่หล่อที่สุดแล้ว หิวข้าวหรือยังครับ” พอว่าแล้วอี้ชิงก็หันหน้าไปหอมฟอดเข้าที่แก้มลูกชายฝาแฝดทั้งสองคนทั้งซ้ายและขวา ถึงจะดื้อและซนไปหน่อยแต่ก็เรียกได้ว่าเป็นดวงใจของเขาจริงๆ พอได้หอมได้กอดแล้วมันชื่นใจชะมัด


“ครับ” ไม่ต้องคิดมากให้เมื่อยตุ้ม พ่อสองอู๋ตอบออกมาพร้อมกันทันทีเพราะวันนี้คุณแม่มัวแต่มาติดซีรีย์เลยยังไม่ได้ทำอาหารเช้า โดยปกติแล้ววันอาทิตย์ทั้งฟ่าน1ฟ่าน2และฟ่าน3จะนอนตื่นช้ากว่าใครเขาเพราะพวกนางจะหอบกันไปนอนห้องเดียวกันเรียงเป็นตับ3อู๋ บางอาทิตย์ก็หอบกันมานอนบียดกันบนเตียงเล็กๆ4คนไม่รู้จะรักอะไรกันนักหนา


“งั้นไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวคุณแม่จะไปทำกับข้าว” อี้ชิงคลายอ้อมแขนที่ล็อคอยู่ที่เอวเล็กปล่อยให้เจ้าลูกชายวิ่งไปหาพ่อมันที่ทำท่าจะวิ่งหนีขึ้นไปเล่นกันต่อข้างบน



อี้ชิงกดปิดโทรทัศน์ก่อนจะลุกขึ้นยืนเตรียมตัวไปเข้าครัว เขาไม่คิดจะดูซีรีย์ต่อแล้วเพราะลูกชายบอกว่าหิว เดี๋ยวไม่งั้นพวกสามสหายจะพากันไปป่วนครัวจนได้กินเป็นมื้อเที่ยงพอดี คนตัวเล็กเดินลากตัวเองเดินผ่านห้องโถงเข้าไปยังห้องครัว วันนี้ยังมีงานหลายอย่างที่เขาต้องทำทั้งซักเสื้อนักเรียนด้วยมือแล้วเอาไปตากก่อนเที่ยงเพื่อที่จะได้แห้งก่อนบ่ายแล้วรีดทัน ชุดอยู่บ้านเขาซักไปแล้วเมื่อวันเสาร์วันนี้เลยเหลือแค่ชุดทพงานของผัวกับชุดนักเรียนของลูก กางเกงซักรวมๆกันได้แต่เสื้อคงต้องซักเอง....



เฮ้อ.....


อยากจะถอนหายใจอีกสักพันครั้ง ถ้าถามอี้ชิงว่าเหนื่อยไหมก็ตอบได้เลยว่าเหนื่อยมากเพราะอีสองหน่อถอดแบบพ่อมาเปี๊ยบเรียกได้ว่าอย่างกับคนเดียวกัน เวลาพูดบอกอะไรก็ไม่เคยฟังแต่พออยากได้อะไรก็มาทำพูดเพราะ ทำอ้อนคุณแม่ครับอย่างนั้นนอย่างนี้

ไอ้ตัวเขาก็ใจอ่อนทุกทีไม่กล้าตีลูกเพราะถ้าวันไหนได้ลงไม้บรรทัดไม้เรียวกันหละก็งอนไปยันเช้าอีกวัน แล้วคนเป็นแม่หรอจะทนเห็นลูกไม่กินเข้านอนคุดคู้อยู่ในห้องนอนร้องไห้กระซิกๆ สุดท้ายก็เป็นตัวเองที่ร้องไห้ตามไปโอ๋ลูก...เรื่องเรียกร้องความสนใจนี่ที่หนึ่ง โดนไม้บรรทัดตีไปทีเดียวอ้อนอย่างกับจะตายจากกัน...
พ่อเสืออีกตัวนึงก็ใช่ย่อย ขี้เกียจยิ่งกว่าอะไรมั่นใจในตัวเองเกินร้อย กล้าคิดกล้าแสดงออกเรื่องรู้ดีนี่ที่หนึ่ง เป็นยิ่งกว่าจอมแสบในบรรดาสามสหาย ดูเหมือนอี้ฟานที่2จะเป็นลูกพ่อคริสเลือดแท้โดยกำเนิดเพราะพ่อคุณหวงแม่ยิ่งกว่าอะไร วันก่อนคุณเอดิสันเอาจดหมายที่เซ็นรับแทนมาให้เขาแล้วยืนคุยกันนานไปหน่อยพ่อลูกชายเอาหมาไปขี้ข้างรั้วเลยจ้า~
แถมยังยิงน้ำรดต้นไม้ข้ามรั้วไปใส่ลำโพงที่เขาเอาออกมาวางฟังเพลงตอนอาบแดดจนต้องไปซื้อมาใช้ให้ใหม่ คุณแม่คุยอะไรกับใครนี่ฟ้องหมดทั้งอังกฤษจีนเกาหลีพ่อคุณฟังออกดีอย่างกับเป็นคนชาตินั้นๆ

พอนึกแล้วก็เหนื่อยใจ แต่ก็ต้องยอมหละเพราะพ่อสองเสือมันรักแม่ยิ่งกว่าไข่ในหินแม้จะไม่เคยช่วยทำอะไรที่แบ่งเบาภาระเลย สุดท้ายก็ทำได้แค่ถอนหายใจเพราะรักผัวเหมือนแก้วตารักลูกเหมือนดวงใจ ต่อให้เหนื่อยแค่ไหนก็ขาดไม่ได้ เฮ้อ~



อี้ชิงจัดการแกะถุงไก่หมักสำเร็จที่เอาออกมาจากช่องฟีซตั้งแต่เช้าเพื่อให้น้ำแข็งละลายแล้วเทลงในถาด ก่อนจะเปิดวอร์ม เตาอบที่ด่านล่างแล้วหยิบเอาขวดซอสสูตรพิเศษมาบีบราดตัวไก่ลงไปเพิ่ม ดีที่เขาหุงข้าวไว้แล้วไม่งั้นกว่าจะได้กินพ่อสามสหายคงหิวตายซะก่อน
อี้ชิงจัดการหยิบนั่นหั่นนี่มาโรยใส่ไก่เพื่อให้ได้กลิ่นหอมก่อนจะเปิดฝาเตาอบแล้วใส่มันลงไปทั้งถาดทั้งๆที่เตายังไม่ร้อนดี เขาขี้เกียจนั่งรอแล้วไหนๆก็ไหนๆอบมันซัก45นาทีไปเลย

พอจัดการกับอาหารง่ายๆเสร็จอี้ชิงก็เดินไปล้างมือจนสะอาดปล่อยให้เตาอบทำงานจากนั้นก็ออกจากครัวเพื่อคุณไปบนห้องดูอีสามพ่อลูกนั่นทำอะไรกัน ขนาดยังไม่ทันได้ขึ้นบันไดขนาดนี้เสียงตึงตังกับเสียงหัวเราะก๊ากก็ดังจนน่าขนลุกไปหมด ถ้าให้เดาจากเสียงคริสคงพาลูกไปเล่นกันอยู่ในห้องนอนที่เขาเพิ่งจะพับผ้าเก็บเสร็จไปหยกๆ....


อี้ชิงเดินขึ้นบันไดเดินไปเปิดประตูห้องนอนใหญ่แล้วก็พบว่าผ้าปูที่นอนที่เคยเป็นระเบียบบัดนี้ยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว ผ้านวมที่ใช้ห่มก็ตกอยู่กับพื้นหมอนที่เคยจัดเรียงเป็นระเบียบก็ไม่อยู่ที่เดิมอีกแล้ว



เฮ้อ.....



“นางฮีโตเลี่ยมมาแล้ว!!!!” เสียงลูกฟ่านตะโกนลั่นใส่เขาก่อนจะกระโดดลงจากเตียงวิ่งมาเกาะขาไว้แล้วเพียงไม่นานคุณลูกอู๋ก็วิ่งลงตามมาฉุดแขนร้องเสียงเย้วๆอย่างดีใจที่จับสัตวประหลาดในอุลตร้าแมนได้แถมยังยื้ดยุดฉุดดึงพาคุณแม่ไปลงเตียงที่มีคุณพ่อคอยกางผ้าห่มรอรับอยู่อีก



=_= กับข้าวก็ทำให้กินเสื้อผ้าก็รีดให้แต่บอกกูเป็นนางร้ายในการ์ตูน ไอ้เด็กพวกนี้นี่ เดี๋วก็จับกินซะ!!



“จับได้แล้ว!!” อี้ชิงถูกลูกชายทั้งสองคนดันให้ลงไปนอนบนเตียงซึ่งเขาเองก็ยอมทำตามแกล้งล้มตัวใส่ผ้าห่มที่คริสกางรออยู่แล้วก่อนจะถูกรวบตัวเอาเข้าไปกอดแถมโดนผ้าพันเป็นดักแด้แล้วคุณลูกชายทั้งสองก็กระโดดขึ้นมาทับตุบๆๆๆทำอย่างกับเห็นกะเทยเป็นกระสอบนุ่น


“รุมหอมแก้มนาง!!!” เสียงคริสตะโกนสั่งดังลั่นและคุณลูกชายทั้งสองก็บ้าจี้หัวเราะคิกคักวิ่งเข้ามารุมหอมแก้มเขารัวๆทั้งซ้ายๆและขวาแถมยังจูบไปทั่วหน้าจนน้ำลายเปรอะไปทั่วโดยที่คริสเองก็เล่นกับเขาไปด้วยอย่างสนุกสนานไม่ได้สนใจสีหน้าคุณแม่ผู้ต้องแบกรักชะตากรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย



ขี้กากจะขึ้นหน้ากูไหมคะเนี่ย



“โอ้ย พอแล้วคุณลูกขา” อี้ชิงเบี่ยงหน้าหนีจูบจากลูกชายทั้งสองก่อนจะดิ้นไปมาใต้ผ้าห่มที่ถูกรัดด้วยอ้อมกอดของสามี คริสหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะคลายตัวเขาให้พ้นจากพันธนาการแล้วพอได้โอกาสอี้ชิงก็ยันกายตะครุบตัวลูกฟ่านเข้ามากอดแล้วเอนตัวลงกับเตียงก่อนจะตะโกนออกมาเสียงดัง


“จับลูกเสือได้แล้ว!!



สุดท้ายกะเทยก็เพี้ยนตามอีสามตัวนี้ไปในที่สุด....


“ฮ่าๆๆๆๆ” อี้ฟานที่3หัวเราะคิกคักสนุกสนานอย่างชอบใจเมื่อโดนคุณแม่กอดและหอมแก้มเขาเหมือนกับที่ตัวเองทำ เขาดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาในอ้อมกอด และเพียงไม่นานเสียงคุณชายฝาแฝดคนที่2จอมขี้อิจฉาก็ดังมาตามมาติดๆ


“คุณแม่จับน้องอู๋บ้าง~” อู๋ฟ่านที่สองคลานขึ้นไปนอนทับตัวคุณแม่คนสวยทั้งยังดึงผมยาวๆสีน้ำตาลอ่อนอย่างเรียกร้องความสนใจ และมันก็ได้ผลเหมือนทุกครั้งเมื่อคุณแม่อี้ชิงหันหน้ามาจุ๊บเขาก่อนจะดึงตัวเข้าไปกอดแล้วพลิกตัวนอนหงายหอบหายใจฮั่กๆ


“อ้าว แล้วไม่จับคุณพ่อหรอครับ” คริสคลานเข้าคร่อมตัวภรรยาและลูกชายทั้งสองหวังจะจูบอี้ชิงบ้างแต่ไม่ทันจะได้โน้มตัวเข้าไปใกล้เขาก็ถูกลูกชายฝั่งซ้ายยกเท้าขึ้นยันอกไว้พร้อมกับหัวเราะออกมาส่วนคุณลูกฝั่งก็ยกมือขึ้นจิกผมแล้วดันหน้าออกจนไม่มีโอกาสได้ก้มลงไปจูบ


“ว้า....งั้นไปมีแฟนใหม่ดีกว่า” คริสแกล้งพูดหยอกลูกชายที่ไม่ยอมให้เขาจูบภรรยาแถมทำหน้าละห้อย แต่คราวนี้กลายเป็นว่าตัวแม่ยกมือขึ้นจิกผมเขาจนหน้าแหงนทั้งยังแสยะยิ้มมาให้แล้วพูดทวนซ้ำประโยคเดิมที่คริสเพิ่งพูดไปแหมบๆ


“ว่าไงนะคะ” อี้ชิงแสยะยิ้มหัวเราะหึในลำคอพร้อมทั้งจิกผมอีสามีที่บังอาจมาพูดจาล้อเล่นไม่เข้าเรื่อง เดี๋ยวคอยดูเถอะถ้าให้อีสองอู๋นี่จัดการจะไปไม่รอดทั้งคุณพ่อทั้งเมียน้อย


“เปล่าจ้ะ” คริสฉีกยิ้มกว้างก่อนจะก้มหน้าลงไปจุ๊บปปากภรรยาอย่างรวดเร็วท่ามกลางเสียงหัวเราะชอบใจของลูกๆ นี่ก็ไม่รู้ว่าพ่อสูงอู๋นี่อยู่ข้างไหนกันแน่ พอพ่อตกเป็นฝ่ายรองก็ย้ายไปอยู่ข้างแม่...แต่จะว่าไปอี้ชิงก็ไม่เคยเป็นเบี้ยล่างนี่หว่า...


“เดี๋ยวคุณแม่ก็หนี คุณพ่อก็ร้องไห้”


“ฮือๆๆๆ คริสขอโทษ” ลูกชายทั้งสองคนกล่าวอย่างรู้ดีทั้งยังทำท่าร้องไห้พูดจาเลียนแบบคุณพ่อที่เคยถูกคุณแม่โกรธจนไม่กลับบ้านเรียกเสียงหัวเราะดังลั่นจากจางอี้ชิงที่นอนฟังอยู่ด้วยความชอบใจ
ไม่น่าเชื่อเลยว่าลูกยังจำได้อีกตอนที่เขาโกรธคริสจนหนีออกไปดื่มข้างนอกแล้วแกล้งพูดเล่นว่าจะมีผัวใหม่ พ่อคุณก็ร้องไห้ใส่โทรศัพท์เป็นวรรคเป็นเวรจนเขาต้องรีบกลับบ้าน แต่ที่จำได้มันไม่ใช่คริสคนเดียวที่ร้องไห้นี่สิ


“ละใครร้องไห้บอกคิดถึงคุณแม่ร้องไห้โยเยจะไม่ยอมกินข้าว ฮื่อๆๆ” คริสได้ทีพอตัวเองโดนขายก็ขายลูกบ้าง ตอนนั้นมันไม่ใช่แค่เขาหรอกที่ร้องไห้ คริสแค่กลั้นน้ำตาส่งเสียงกระซิกๆสูดน้ำมูกคุยกับภรรยาเท่านั้น แต่เสียงร้องไห้ฮือๆนี่มันมาจากลูกชายสองตัวต่างหาก
อีกคนก็ร้องไห้ไปดึงเน็กไทรัดคอเขาไปด้วยกะจะฆ่าพ่อที่ทำให้คุณแม่สุดรักโกรธให้ตาย ส่วนอีกคนนี่ถือกุญแจรถเตรียมออกไปตามหาคุณแม่แล้วถ้าไม่ติดว่ายังไม่มีใบขับขี่พ่อคุณคงขับรถออกไปแล้ว....


“พอกันทั้งคู่นั่นแหละ” อี้ชิงว่าออกมาพร้อมกับหัวเราะหึๆในลำคอ ก็อีลูกชายตัวแสบนี่แหละที่เอาเบอร์พ่อไปให้คุณครูเนิร์สเซอร์รี่ที่โรงเรียนแลกกับที่ไม่ต้องทำการบ้านแล้วนางก็ส่งข้อความมาจ๊ะจ๋าทั้งๆที่คริสไม่รู้เรื่องเลย สมน้ำหน้าทั้งพ่อทั้งลูกเดี๋ยวคราวหลังเขาจะหนีกลับไปเกาหลีให้อีพ่อลูกอ่อนนี่ขาดใจตายพร้อมกันไปเลย


“ถ้าคุณแม่หนีก็ไม่มีใครทำกับข้าวให้กินแล้วก็อดตายกันไปทีละคน” อี้ชิงแกล้งพูดหยอกแล้วเหลือบตามองคุณลูกทั้งสองซ้ายขวาที่ทำตาละห้อยอย่างสำนึกผิด พอเห็นแล้วมันก็อดยิ้มไม่ได้เพราะทุกครั้งที่เขาเห็นลูกทีไรก็รู้สึกเหมือนเห็นคริสทุกทีทั้งการกระทำ สีหน้า คำพูด ถอดแบบพ่อมันออกมาไม่มีผิด


“งั้นคืนนี้น้องอู๋จะนอนฝ้าคุณแม่” คุณลูกอี้ฟานที่2เงยหน้าขึ้นมองหน้าเขาพร้อมกับพูดออกมาเหมือนหมาหงอยและดูน่าชังจนอดก้มหน้าลงไปหอมฟอดไม่ได้ ให้มันได้อย่างนี้สิกลัวคุณแม่หายจนต้องนอนเฝ้า


“ไม่ต้องเลย วันนี้คุณพ่อต้องทำน้อง” คริสพูดดักทางลูกชายที่ทำท่าจะมาขวางทางรักเขา เมื่อคืนก่อนกับเมื่อคืนก็นอนด้วยกันไปแล้วตั้ง3-4คน วันนี้ถึงเวลาที่คริสจะต้องปั๊มลูกบ้าง


“น้องจะมายังไง” เด็กชายฟ่านถามอย่างสงสัย พ่อเคยบอกว่าเขาออกมาจากท้องแม่ แค่นั้นมันก็น่าสงสัยมากพอแล้วแต่นี่บอกว่าจะทำน้องด้วยมันก็อดสงสัยไม่ได้ว่าจะทำยังไง


“ก็ให้คุณพ่อเอาน้องใส่เข้าไปในท้องแม่ พอเก้าเดือนน้องก็ออกมาเดินเหมือนน้องอู๋ไงครับ” อี้ชิงเป็นคนตอบคำถามลูกโดยเลือกใช้คำตอบน่ารักๆแทนเพราะถ้าให้คริสตอบเองมันจะกลายเป็นการสอนอะไรที่ไม่สมควรให้ลูกมากกว่า
เขาเห็นลูกอู๋สอดมือเข้าไปใต้เสื้อแล้วเปิดพุงชะโงกหัวขึ้นดูท้องเขาอย่างสงสัยก่อนจะถามออกมา


“ละน้องเข้าไปอยู่ได้ไง”


“ก็ต้องให้คุณพ่อเอาเข้าไปทางสะดือแล้วพอจะเอาออกก็ผ่าออกไงครับ” อี้ชิงยกยิ้มตอบคำถามลูกชายเหมือนที่แม่เคยตอบเขาตอนเด็กๆ ใครจะไปกล้าบอกว่าพ่อแม่โซเดมาค่อมกันแล้วออกมาเป็นลูกโดยมี Some noise ที่ลูกชายได้ยินตอนกลางคืนบ่อยๆเป็นเสียงระหว่างประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะ


“น้องอู๋จำได้ ข้างในมันมืดๆหายใจก็ไม่ออก” อี้ฟานที่2พูดอย่างอวดดีเรียกรอยยิ้มกว้างจากคุณแม่ยังสาว นี่ลูกเขามันต้องเป็นยอดมนุษย์แน่ๆจำความได้ตั้งแต่ยังอยู่ในท้องแถมไม่หายใจตั้ง9เดือนก็ยังไม่ตาย....สุดยอดจริงๆพ่อคู๊น~


“แต่ว่าไม่มีโทรศัพท์ โทรคุยกับคุณแม่ไม่ได้” อี้ฟานที่3ทำหน้านิ่วย่นคิ้วอย่างน่าสงสาร เขาอยู่ในท้องตั้ง9เดือนเสียงใครก็ไม่ได้ยินจะคุยกับคุณแม่ก็ไม่ได้ ทำไมคุณพ่อไม่ยอมใส่โทรศัพท์ไปให้เขาด้วยตอนเอาเขายัดเข้าไปในท้องแม่


“คุณพ่อใส่ไปให้แล้วแต่ลืมใส่ซิมลงไป ไว้คราวนี้พ่อจะใส่ลงไปให้น้องด้วยจะได้ไลน์คุยกัน” คริสตอบลูกชายอย่างไร้สาระจนภรรยาถึงกับส่ายหน้าหัวเราะออกมากับความปัญญาอ่อนของสามี แล้วดูท่าลูกชายของเขาจะเชื่อมากเสียด้วยดูทำหน้ากันซะจริงจังเลย


“ละทำไมไม่เอาออกมาใส่ใหม่”


“ใส่บ่อยๆคุณแม่เจ็บ อาจิมมี่แสบ” คริสว่าแล้วก็หัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของลูกชายทั้งสอง นี่ถ้าอี้ชิงท้องลูกอีกคนเขาคงต้องสมัครไลน์เป็นบอทลูกชายคนเล็กไว้คุยอีสองแสบแน่ๆเผลอๆพ่อคุณอาจจะเอา bee talk มาเขย่าใส่ท้องคุณแม่ทุกวัน


“แล้วน้องจะอยู่นานไหม” อี้ฟานที่2ถามออกมาด้วยความสงสัย เขามองหน้าคุณพ่อกับคุณแม่ที่ทำท่ากลั้นยิ้มกันอยู่อย่างไม่เข้าใจ ทำไมต้องขำด้วยยุคนี้ใครๆก็มีโทรศัพท์ทั้งนั้น


“เก้าเดือนนั่นแหละ แต่ตอนนี้น้องยังไม่มา ถ้าอยากให้น้องมาไวๆต้องแยกห้องนอนคุณพ่อจะได้ทำน้องบ่อยๆ”
อี้ชิงทำตาโตกับคำพูดของสามีที่โกหกได้แม้กระทั่งลูกเพื่อที่จะได้ซั่มเมีย ปกติเขาก็โดนจันทร์ถึงศุกร์อยู่แล้วยกเว้นวันไหนที่คุณลูกชายมาขอนอนด้วยนี่เรียกว่ายังไม่บ่อยอีกหรอ?


“ไม่เอา ไม่อยากมีน้อง” อี้ฟานที่3กอดเอวคุณแม่อี้ชิงไว้แน่นพร้อมกับซบหน้าลงกับหน้าอกอวบอิ่ม เขาไม่ยอมให้ใครมาแย่งคุณแม่ไปแน่เพราะแค่นี้ก็เหนื่อยที่จะแย่งชิงจนวุ่นวายไปหมดแล้ว


“ไม่ให้คุณพ่อทำน้อง” ลูกชายทั้งสองคนพูดสลับกันทำเอาอี้ชิงยิ้มขำที่มุกของอีฝรั่งไม่ได้ผลแถมยังทำให้ลูกหวงแม่มันเข้าไปอีก สรุปคือไม่มีใครยอมใครทั้งนั้นอีคุณลูกก็หวงคุณพ่อก็อยากจะได้ เป็นคนกลางนี่มันเหนื่อยจริงจริ๊ง~


“ถ้ามีน้องก็ต้องรักน้องสิครับ เหมือนน้องฟ่านเกิดมาก็ต้องรักน้องอู๋” คุณแม่ยังสาวพูดพร้อมกับเหลือบตามองลูกชายทั้งสองคน มันเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่แม่ทุกคนต้องสอนลูกแบบนี้ แต่สำหรับสองอู๋นี่มันดูเหมือนจะเป็นการพูดเปิดศึกมากกว่าเพราะอีลูกชายสองตัวเริ่มเหล่สายตาเคืองๆมองกันแล้ว



เป็นมวยคู่เด็ดที่ไม่มีใครยอมใครจริงๆ... ฟ.ฟ่าน สำนักเจี้ยเหิง กับ อ.อี้ฟานที่2ที่ส่งขึ้นชิงโดยคุณพ่อคริสติน่าอากีเรร่า


“น้องฟ่านรักคุณแม่” อี้ฟานที่3พูดพร้อมกับกอดรัดเอวอี้ชิงให้แน่นขึ้น เพราะพี่ชายของเขาชอบเรียกร้องความสนใจจากคุณแม่อี้ฟานเลยไม่อยากจะญาติดีด้วยเท่าไหร่แถมยังชอบทำให้คุณแม่โกรธด้วยการเอาเบอร์พ่อไปแจกให้สาวๆแล้วก็ซวยเขาที่คุณแม่หนีไป


“น้องอู๋รักมากกว่า”


“เออๆๆๆ เข้าใจแล้วๆ ลุกเลยทั้งคู่ เตรียมตัวลงไปกินข้าว วันนี้คุณแม่อบไก่ด้วย” อี้ชิงรีบพูดห้ามทัพก่อนที่ลูกชายทั้งสอคนจะเกทับกันไปมากกว่านี้ นี่แค่พ่อมันบอกว่าคุณแม่ชอบคนหล่อลูกเสือสองตัวก็แข่งกันแต่งตัวเพี้ยนซะจนขำไม่ไหว นี่ไม่รู้ว่าไปเอาแฟชั่นที่ไหนมาตัดสินว่าหล่อ ถ้าจะแต่งตัวแบบพ่อมัน ใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกง jj ยังดูดีซะกว่า


“โอเคคร้าบ~” พอว่าแล้วทั้งสองคนก็ลุกขึ้นกระโดดลงจากเตียงวิ่งออกไปนอกห้องเพื่อที่จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เหลือไว้แต่พ่อเสือที่แสยะยิ้มอย่างชอบใจเมื่อเห็นลูกๆวิ่งออกไปนอกห้อง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเถอะว่าอีฝรั่งนี่หละขี้โกงที่สุดชอบหลอกให้ลูกเข้าใจอะไรผิดๆแล้วตัวเองก็ได้เปรียบ


“วันนี้ไม่พาลูกออกไปเที่ยวหรอคะ” อี้ชิงแกล้งพูดออกมาลอยๆหวังจะให้อีฝรั่งมันคิดพาสองแสบออกไปเที่ยวข้างนอกบ้างเพื่อที่เขาจะได้ทำงานบ้านอย่างสงบๆแล้วเย็นๆก็ค่อยกลับมา ไม่งั้นอี้ชิงจะต้องโดนป่วนจนงานล้าช้าแน่


“หื้อ อยากให้พาไปไหนหละคะ” คริสเอนตัวนอนข้างๆภรรยาก่อนจะสอดแขนเข้าไปใต้คอให้อี้ชิงเกยหัวขึ้นมานอนทับบนไหล่ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเขาก็เพิ่งพาลูกชายไปเที่ยวมา วันนี้ก็ไม่จำเป็นต้องไปอีกนอกเสียจากว่าอี้ชิงอยากจะไปคริสก็ยินดีตามใจเมียเพราะถ้าสองแสบรู้ว่าคุณแม่จะไปเที่ยวพวกนั้นจะต้องตามไปด้วยแน่


“ไปไกลๆสักพัก” อี้ชิงว่าออกมาแล้วก็ถอนหายใจหลับตาแกล้งตาย อย่างน้อยให้คริสพาลูกออกไปที่สวนสาธารณะสัก40นาทีก็ยังดี ให้เขาได้พอมีเวลาล้างจานถูบ้านเอาผ้าลงเครื่อง หลังจากนั้นจะเข้าเล่นกันก็ตามใจ

ไม่ใช่ว่าอี้ชิงไม่ต้องการความหวังดีจากลูกๆแต่ทุกครั้งที่เขาทำงานบ้านทีไรทั้งอี้ฟานและอู๋ฟ่านจะต้องออกตัวขอช่วยแล้วพ่อคุณก็ทำเละเทะทุกทีไม่ต่างจากพ่อมัน เพราะงั้นเขาถึงคิดว่าลูกควรมีหน้าที่กินและนอนเฉยๆดีกว่าก็พอส่วนพ่อก็หาตังค์ไปไม่ต้องมายุ่งกับงานเรือน


“งั้นคริสจะพาออกไปซื้อของแล้วเดี๋ยวบ่ายๆจะกลับ” คริสพอเข้าใจจุดประสงค์ของภรรยาดี เขาพอจะคุมลูกได้บ้างแค่พาออกไปเดินห้างไปหาอะไรกินก็คงไม่วุ่นวายเท่าไหร่


“ดีค่ะ แล้วก็คุมค่าใช้จ่ายด้วย” อี้ชิงหันหน้าไปพูดกับสามีอย่างกำชับด้วยสีหน้าจริงจัง คราวที่แล้วพ่อสามเสือไปช้อปกันเรียกได้ว่าถลุงตังค์ยิ่งกว่าเททิ้งลงน้ำทำเอาเขาเห็นบิลแล้วแล้วแทบเป็นลมเพราะพ่อคุณเหมาแบรนด์เนมกันมาทั้งนั้นในขณะที่แม่มันใส่เสือยืดโนเนมตัวละ3เหรียญ

ทั้งแว่นทั้งทั้งรองเท้าเรียกได้ว่าอนาคตนายแบบกันเลยทีเดียวแถมยังใส่เดินวนไปวนมาในบ้านอวดคุณแม่ทำเอาป่วนไปหมด...เป็นคนที่อีโก้จัดจริงๆไม่ได้ใส่โชว์ใครก็ใส่มันอยู่ในบ้านนี่หละ.....


“โถ่ เดี๋ยวซื้อเสื้อผ้ามาฝาก” คริสเอาของมาล่อหวังจะติดสินบนภรรยา รายรับเขามันก็ตั้งหลายล้านต่อเดือนแล้วอีกอย่างธุรกิจก็คงที่ดีแล้ว คริสไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไรก็มีแค่ลูกกับเมียนี่แหละที่มีค่าที่สุดสำหรับเขาอะไรที่คนในครอบครัวอยากจะได้ก็หามาให้ ไม่เหมือนกับพ่อที่ตอนนี้เอาเงินไปติดเด็กที่ชื่อจุนมยอนเริงสำราญกันจนหมดไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว


“ไม่ต้องมามาทำพูดดี”


Nake3 กับรองพื้น Chanel เป็นไง” คริสหันไปเลิกคิ้วให้กับภรรยาที่ทำตาโตมองมาด้วยสีหน้ากวนๆ ลองแม่คุณพูดสิว่าไม่อยากได้คริสจะปล้ำให้


“หึๆๆ”


“หึๆๆๆ”


“ถ้าไม่ได้กลับมาไม่ต้องเข้าบ้านทั้งพ่อทั้งลูกเลย...”









 



 









+










 







ในช่วงเวลาหัวค่ำอี้ชิงกดโทรศัพท์โทรออกซ้ำไปซ้ำมาจนเครื่องร้อน นี่มันหลายชั่วโมงแล้วที่คริสพาลูกออกไปเที่ยวข้างนอกตั้งแต่เที่ยงจนบ่าย จากบ่ายเป็นเย็นแล้วนี่ก็ค่ำแล้วอีสามหน่อยังไม่โผล่หัวมาสักทีโทรไปกี่สายๆก็ไม่ยอมรับไม่รู้ว่าไปเป็นอะไรกันหรือเปล่าหรือว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเองก็ได้แต่นั่งใจร้อนเป็นห่วงว่าคริสจะพาลูกไปเป็นอะไรก็เล่นไม่รับโทรศัพท์เลยตั้งแต่บ่าย...

ตู้ด...ตู้ด...ตู้ด...ตู้ด...


[ฮัลโหลว่าไงคะ]


“คริส!!!! ทำไมไม่รับโทรศัพท์!!!” ทันทีที่ปลายสายกดรับในรอบหลายสิบเที่ยวอี้ชิงก็ระเบิดอารมณ์ใส่ผัวทันที นี่ทำเสียงสดใสไม่ได้สำนึกเลยใช่ไหมว่าทำอะไรผิดกัน!!


[ขอโทษค่ะไม่ได้ยินเสียง ที่รักมีไร]


“นี่กี่โมงแล้ว!! คริสอยู่ไหน ลูกไปไหน!!


[อ๋อ คริสพาลูกมางานเลี้ยงเพื่อน ว่าจะโทรไปบอกแต่มัวแต่ทักแขก]


“ฮึ่ย!! แล้วจะกลับเมื่อไหร่ พรุ่งนี้ลูกไปโรงเรียน ทำไมสอนให้ลูกเถลไถลแบบนี้ห้ะ!


[เดี๋ยวก็กลับแล้วครับมาแป้บเดียว ไม่ดึกมาก เห็นลูกอยากมาเลยพามา]


มึงเลยเชื่อลูกสินะ....เหตุผลบัดซบ!! อีลูกตระกูลนี้!!’


“อย่าให้ช้าเชียวนะ...รีบกลับเลยให้ไว เดี๋ยวจะโดนกันทั้งคู่” อี้ชิงกดเสียงเหี้ยมกรอกลงไปในโทรศัพท์ เชื่อได้เลยว่าที่คริสไม่โทรมาบอกเพราะกลัวจะไม่ได้พาลูกออกไปเที่ยวเลยรอให้ถึงงานก่อนค่อยโทรมาบอก เป็นแผนเบสิคที่เด็กประถมใช้จริงๆ


[ครับๆ ไม่นาน]


ตู้ด...ตู้ด...ตู้ด...

พอตอบปากรับคำเสร็จคริสก็รีบวางโทรศัพท์ไปทนทีตั้งแต่อี้ชิงยังไม่ได้อ้าปากด่าสั่งเสีย เขาโยนโทรศัพท์ไว้ข้างโซฟาด้วยความหงุดหงิดในหัวจิตหัวใจ ให้มันได้อย่างนี้สิหัดให้ลูกหนีแม่เที่ยวตั้งแต่ยังเล็กแล้วนี่ดูพ่อคุณก็ลั้นลาพอกันที่ได้พาลูกสุดหล่อไปอวดชาวบ้านในงานโดยที่ไม่โทรมาบอกแม่มันสักคำ เดี๋ยวคอยดูเถอะถ้ากลับมาจะเทศน์ให้กลายเป็นเณรกันทั้งสามคนเลย!!!

.

.

.

.

.

.


“เมื่อกี้คุณแม่โทรมาว่าใหญ่เลยบอกให้รีบกลับ” คริสเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าแล้วย่อตัวคุยกับลูกชายที่ยืนอยู่ข้างๆ คุณชายฟ่านและคุณชายอู๋ไม่ได้มีท่าทางเกรงกลัวหรือเขินอายกับแขกเลยสักนิดตั้งแต่มางาน ใครขอถ่ายรูปก็ถ่ายกับเขาไปหมดใครพาเดินไปโชว์ตัวที่ไหนก็ไปไม่ได้กลัวคนเลยสักนิดเดียวสมเป็นลูกนายแบบ


“เดี๋ยวค่อยกลับตอนคุณแม่หลับจะได้ไม่โดนว่า” อู๋ฟ่านสุดแสบเสนอความคิดเห็น เขาเพิ่งเคยออกงานกับพ่อแค่ไม่กี่ครั้งแล้วทุกครั้งที่ได้ออกงานก็เป็นที่สนใจทุกที แบบนี้ใครจะยอมกลับไปง่ายๆแถมถ้ากลับไวจะจะโดนคุณแม่ว่าเอาด้วย


“แล้วถ้าคุณแม่โกรธ” คริสแย้ง


“คุณแม่หลับจะรู้ได้ไง...” คำตอบของลูกชายทำให้คริสชั่งใจอยู่ชั่วครู่ แต่ถ้าสองแฝดของเขาอยากจะโชว์ตัวขนาดนี้คริสก็ไม่อยากจะขัดลูกถึงกลับบ้านไปคุณแม่จะดุก็เถอะ


“งั้นห้ามเกินสามทุ่มต้องกลับบ้านนะ....”







 








 
เวลาสี่ทุ่มสี่สิบห้านาที คริสขับรถเข้ามาจอดในรั้วบ้านก่อนจะดับเครื่องแล้วจึงค่อยหันไปปลุกลูกชายที่นอนหลับอยู่บนเบาะหน้า ถ้าอี้ชิงเห็นลูกหลับขนาดนี้ก็คงไม่กล้าว่าอะไรเพราะรายนั้นรักลูกจะตายส่วนพ่อสองแสบก็หมดฤทธิ์นอนเพลียไปตามๆกันเพราะเหนื่อยจากการโชว์ตัว


“น้องอู๋ครับ น้องฟ่าน ตื่นได้แล้วถึงบ้านเราแล้ว” เพียงแค่คริสใช้มือเขย่าร่างลูกชายเบาๆคุณชายหมดฤทธิ์ทั้งสองก็ลืมตาสงัวเสงียอ้าปากหาววอดๆอย่างเกียจคร้าน คริสปลดเข็มขัดนิรภัยให้ลูกแล้วเอื้อมมือไปเปิดประตูรถปล่อยให้สองแสบลงไปก่อนเขาถึงค่อยถอดเข็มขัดตัวเองแล้วเปิดประตูรถลงไปบ้าง

คริสหันไปกดรีโมทปิดประตูรั้วก่อนจะเดินตามลูกไปเข้าบ้าน อี้ชิงไม่ได้ล็อคประตูไว้เหมือนทุกทีในบ้านมืดสนิทต่างคนต่างง่วงเต็มที่ คริสหันหลังปิดประตูบ้านแล้วคลำมือไปเปิดไฟบนผนั่งให้สว่างจนเห็นทางเดิน ก่อนจะเดินตามลูกชายที่เดินเตาะแตะขึ้นบันไดไป


“วันนี้จะนอนห้องตัวเองหรือเปล่าครับ” คริสเอ่ยถามลูกๆที่เดินทำหน้าง่วงๆอยู่ไม่ไกล ทั้งอี้ฟานที่2และ3ส่ายหน้าไปมาพร้อมกันอย่างงัวเงีย ดูท่าทางคุณสองอู๋จะง่วงมากเลยออกอาการงอแงอยากจะนอนกับคุณแม่ซึ่งคริสก็ไม่ได้ขัดอะไร
เขาเดินขึ้นบันไดเดินผ่านห้องลูกไปยังห้องนอนใหญ่ที่ใช้นอนกับอี้ชิงแล้วบิดล็อคเข้าไปแต่ปรากฏว่าประตูถูกล็อคจากด้านในคริสจึงลองเคาะประตูแทน


ก๊อก ก๊อก ก๊อก


“อี้ชิง... ที่รักเปิดประตูให้หน่อย” คริสเคาะประตู2-3ทีแล้วตะโกนเรียกภรรยาแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากข้างไหน เขาเว้นระยะสักพักนึงหันไปมองลูกๆที่ยืนขยี้ตาอยู่อย่างง่วงงุนแล้วจึงตัดสินใจเคาะประตูใหม่ให้ดังกว่าเดิม


ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก


“ที่รัก ลูกง่วงแล้วอยากเข้าไปนอนด้วยเปิดประตูให้หน่อย....” คริสเคาะประตูและตะโกนเรียกอีกครั้งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับเหมือนเดิม น่าแปลกที่ปกติอี้ชิงจะตื่นไวกับเสียงปลุกมากแถมภรรยาของเขาก็ไม่ใช่พวกใส่หูฟังนอนด้วยแต่กลับไม่ยอมตื่นมาเปิดประตูให้ อีกอย่างนี่ก็ไม่ได้ดึกมากขนาดที่อี้ชิงจะหลับลึกจนไม่ได้ยินเสียงด้วยย


ก๊ฮก ก๊อก ก๊อก ก๊อก


“คุณแม่คร้าบ ขอนอนด้วย เปิดประตูให้หน่อย~




ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก

.

.

.

.

.

.

 

“คุณแม่คร้าบ ขอโทษครับ เปิดประตูให้หน่อย~


“คุณแม่~


“ที่รัก~ เปิดประตูให้คริสหน่อย ง่วงแล้ว~


ทั้งเสียงเรียกและเสียงเคาะประตูดังระงมมาเกือบห้านาทีแล้ว อี้ชิงนอนหัวเราะหึอยู่บนเตียงนุ่มๆปล่อยให้อีสามพ่อลูกมันเคาะประตูต่อไป สมน้ำหน้าบังอาจหนีเที่ยวแถมยังกลับซะดึกดื่น ไม่มีทางที่เขาจะลุกไปเปิดประตูให้หรอก เชิญไปนอนด้วยกันสามคนเลย นี่เขาไม่ได้ล็อคประตูบ้านก็ดีแค่ไหนให้นอนกับไอ้ชินจังหมาข้างนอกไปเลย

อีฝรั่งก็สัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะบอกกลับไม่ดึกๆนี่ล่อซะเกือบห้าทุ่ม สมควรโดนลงโทษ!!









“คุณแม่คร้าบ~ คราวหลังจะไม่กลับดึกอีกแล้วคร้าบ เปิดประตูให้หน่อย~~~~~~~~~









-TBC-















TALK



สวัสดีค่ะ มาลงตอนแรกแล้ว โอ้ยยยยยย สงสารขุ่นแม่จริงจริ๊ง~ เป็นกำลังใจให้คุณแม่อี้ด้วยนะคะ นางฮีโตเลี่ยมจะเจอกับอะไรอีกบ้าง ฮื่ออๆๆๆ ฟิคเรื่องนี้คือใสๆแบบใสจริงๆ ไม่ค่อยทะลึ่งแบบกะเทยซีรีย์กับฝรั่งเท่าไหร่ แล้วแต่คนชอบเลยค่ะ :3
ชี้แจงก่อนว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็น SIDE story นะคะ คือเรื่องอาจไม่ได้ต่อกันเป็นเรื่องเป็นราวยาวๆ เป็นเหมือนเนื้อเรื่องย่อยๆแทรกเป็นตอนๆไม่ได้ต่อกันคล้ายๆซิดคอมประมาณนี้ :D สุดท้ายนี้อย่าลืมติดแท๊ก #ฟิคทหารเสือ และไปโหวตให้เหล่าลูกเสือด้วยนะคะ ! ขอบคุณมากค่ะ!!



เอ็นจอยรีดดิ้ง!!

1 ความคิดเห็น:

  1. กรี๊ดดดดดดด ทำไมบ้านนี้มันดีงามแบบนี้ อยากได้ลูกเค้าจัง

    ตอบลบ