“คริส อี้ฝากดูลูกสองวันนะ จะไปทำธุระที่เกาหลี...”
เกร๊ง...
ราวกับห้วงเวลาถูกหยุดชั่วขณะ ช้อนสามคู่ที่ถืออยู่ในมือลูกเสือสามตัวหล่นกระทบลงบนจานข้าวอย่างพร้อมเพรียง ทุกคนหันหน้าไปมองคุณแม่ที่ยังรื้อตูเย็นหาน้ำมาดื่มอย่างไม่ทุกข์ร้อน อะไรคือการที่อยู่ๆคุณแม่ก็มาบอกว่าจะกลับเกาหลีให้พ่อดูแลลูกด้วยโดยที่ไม่ได้บอกกันล่วงหน้าเลย
“ไปทำอะไรครับ” อี้ฟานเอ่อยถามขึ้นอย่างงๆว่าทำไมแม่ไม่พาเขากับพ่อไปด้วยทั้งๆที่ปกติแล้วเวลาออกนอกประเทศตัวจะติดกันแท้ๆ
“ก็คุณแม่ไปทำธุระไม่นานเดี๋ยวก็กลับ จะไปกันทำไม” อี้ชิงตอบอย่างสบายๆพร้อมกับหยิบขวดน้ำองุ่นจากตู้เย็นขึ้นดื่ม ที่จริงแล้วเขาไม่มีธุระสำคัญอะไรมากมายหรอกแต่แค่มีเหตุผลบางอย่างที่อยากจะทิ้งลูกทิ้งเต้าไว้ให้ผัวดูแลนี่แหละ
“ธุระเรื่อง?” คริสเอ่ยถามพร้อมกับหันไปมองหน้าภรรยาเมื่อคิดว่าภรรยาอาจจะกำลังคิดทำอะไรแปลกๆ มันเป็นไปได้หรอที่คนเฟอะฟะอย่างอี้ชิงจะอออกนอกประเทศเองโดยที่ไม่มีตัวช่วย ยิ่งเรื่องเอกสารการเดินทางนี่แม่คุณทำพลาดตลอด
“น่า... ธุระสำคัญ อี้ก็แค่ฝากดูลูกสองวันเอง” อี้ชิงตอบปัดทำเหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะเขาไม่ได้คิดไว้ว่าจะตอบคริสว่าอะไรถ้าถูกถามแบบนี้ อีกอย่างถ้าปล่อยให้ตัวเองโดนซักเรื่องๆมีหวังความแตก
“คุณแม่นั่งเครื่องบินเป็นด้วยหรอครับ” อู๋ฟ่านสุดแสบย่นคิ้วแสดงสีหน้าเป็นห่วงคุณแม่ที่บอกว่าจะกลับไปเกาหลีคนเดียว เขากลัวว่าแม่จะทำหน้าแตกด้วยกำเงินสดไปซื้อตั๋วเครื่องบินเหมือนขึ้นรถไฟ เผลอๆไม่มีเอกสารเขาไม่ให้ขึ้นเครื่องหรือถูกจับเป็นต่างด้าวจะเดือดร้อนคุณพ่ออีก
“เดี๋ยวเถอะ ปากดีจริงๆ” คุณแม่ยังสาวตวัดตามองลูกชายที่บังอาจพูดดูถูกสกิลการเนียนของเขา มันก็แค่ทำตามคนข้างหน้าและให้เจ้าหน้าที่ช่วยแนะนำไปด้วยก็เท่านั้นอีกอย่างภาษาจีนก็เป็นภาษาที่สามแล้วมันจะต้องมีเจ้าหน้าที่สักคนนึงหละที่พูดจีนได้
“คุณแม่จะหลงทางไหมครับ” อี้ฟานกล่าวขึ้นสมทบพี่ชาย เขารู้สึกเป็นห่วงคุณแม่จริงๆเพราะปกแล้วคุณแม่มักจะมั่วเส้นทางตลอดแม้แต่นั่งรถโดยสารประจำทางต้องให้คุณพ่อขับรถออกไปรับด้วย คงไม่มีใครกล้าให้ขึ้นเครื่องบินไปคนเดียว
“คุณแม่ไปถูกก็แล้วกัน แบร่” อี้ชิงแลบลิ้นให้ลูกๆก่อนจะเดินไปนั่งประจำที่ตัวเองแล้วเริ่มกินข้าวทันที เขาคิดเอาไว้ไม่มีผิดเลยว่าอี้ฟานกับอู๋ฟ่านจะต้องเข้าใจและไม่รบเร้าแน่ ถึงจะเป็นเด็ฏที่ซนและขี้อ้อนสุดๆแต่พอเวลาเป็นจริงเป็นจังก็ปรับตัวได้อย่างดี...แบบนี้สิลูกขุ่นแม่อี้ของแท้...
“งั้นคริสจะไปด้วย” คริสขมวดคิ้วจ้องหน้าภรรยาไม่วางตา เรื่องอะไรจะปล่อยให้เมียหนีไปเที่ยวคนเดียวแล้วเขาต้องมาเลี้ยงลูกอยู่บ้าน อีกอย่างอู๋ฟ่านกับอี้ฟานก็ไม่ได้ไปเกาหลีมานานแล้วด้วย
“งั้นน้องอู๋ไปด้วย!”
“น้องฟ่านไปด้วย!”
ทันทีที่คุณพ่อบอกว่าจะตามคุณแม่กลับไปเกาหลี จากสถานการณ์ที่เคยสงบก็เกิดการแข่งขันย่อมๆขึ้นทันทีเพราะมันเป็นปกติที่ถ้าใครคนนึงได้ไปด้วยอีกสองคนจะต้องไม่ยอมแน่ๆไม่เคยยอมกันสักเรื่องเดียวจนบางทีก็กลายเป็นปัญหา
“ไม่ต้องเลย ไม่ให้ใครไปทั้งนั้น อยู่บ้านไปเรียนไปทำงาน เดี๋ยวคุณแม่ก็กลับแล้ว” อี้ชิงเหล่ตามองสามีตัวดีที่เป็นคนจุดชนวนการแข่งขันขึ้นมา เขาไม่เชื่อหรอกว่าคริสจะไม่รู้ว่าถ้าพูดแบบนี้ลูกชายอีกสองต้องรบจะไปด้วยแน่แต่ที่พูดก็เพราะอยากจะใช้ลูกเป็นเครื่องมือเรียกคะแนนความสงสารใช่ไหมหละ
“แล้วจะไปคนเดียวยังไง” คริสนิ่วหน้ากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง อนนี้เขาเป็นห่วงภรรยาจริงๆเพราะนอกจากภาษาอังกฤษจะงูปลาแล้วอี้ชิงก็ยังอึนและเอ๋อเอาโล่เลยทีเดียว ไม่ใช่ว่าแม่คุณนั่งมึนจนตกเครื่องเสียเงินซื้อตั๋วสองรอบมันก็เงินเขาทั้งนั้น
“เอ๊ะ ก็บอกไปได้ก็ไปได้สิ อี้จะไปพรุ่งนี้แล้วนะ” อี้ชิงไม่สนใจสีหน้าและสายตาเป็นห่วงของสามี จริงๆคริสควรจะห่วงตัวเองมากกว่าที่ต้องดูลูก3วันให้ไปตลอดรอดฝั่ง ในเมื่อมีโอกาสให้อีอีฝรั่งมันเลี้ยงลูกทั้งทีใครจะไปแค่2วันตามที่บอก
“จะกลับวันไหน”
“ก็ประมาณ2-3วันนั่นแหละ อี้ไปพรุ่งนี้ตอนสิบโมงพอดี” อี้ชิงยิ้มหน่อไม้ฝรั่งใส่จานตัวเองด้วยท่าทางสบายๆโดยที่ไม่สนใจสายตาของลูกเสือรอบตัวเลยสักนิด ยังไงเขาก็ยืนยันว่าจะกลับเกาหลีให้ได้ เรื่องลูกชายงอแงอันนี้ตัดทิ้งไปได้เลยเพราะลูกอู๋ทั้งสองของเขาน่าจะเข้าใจแล้ว ที่นี้ก็เหลือแต่ผัวนี่หละที่ยังทำเป็นเด็กๆรบเร้าอยู่ได้
“งั้นน้องฟ่านไปส่งคุณแม่นะครับ” อี้ฟานพูดขึ้นก่อนจะเดินลงจากเก้าอี้ไปนั่งตักคุณแม่คนสวยที่ยังกินข้าวอยู่ ถ้าคุณแม่ไปทำธุระแค่ไม่กี่วันเขาอยู่กับพ่อก็ได้ไม่น่ามีปัญหาอะไร
“ไปสิครับ อยู่กันได้ใช่ไหม” อี้ชิงหันหน้าไปหอมฟอดเข้าที่แก้มลูกชาย นี่ขนาดลูกเขาอายุ4ขวบยังเข้าใจไม่เหมือนพ่อมันที่ยังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเป็นตูดลิงอยู่เลย
“ครับ! น้องอู๋อยู่ได้!” อู๋ฟ่านตอบอย่างฉะฉาน...ถึงไม่มีคุณแม่เขาก็ยังมีคุณพ่อ แถมคุณพ่อยังไม่ดุอีกต่างหาก ถ้าคุณแม่ไม่อยู่สักสองวันคงจะสนุกพิลึกเพราะพอจะต้องพาไปเล่นที่บริษัทและงานเลี้ยงแน่ๆ
“ดีมาก ดูแลคุณพ่อด้วยนะ” อี้ชิงแสยะยิ้มเหลือบตามองอีสามีที่นั่งหน้าเงิงคร่ำเครียดอยู่หน้าจานข้าว เพราะว่าตลอดเวลาลูกเขาไม่เคยอยู่กับพ่อมันสองคนเลยนอกจากเวลาไปเที่ยวห้างจึงไม่มีโอกาสได้รู้ว่าจริงๆแล้วหน้าที่ทุกอย่างในบ้านแม่เป็นคนจัดการทั้งสิ้น ส่วนคริสเองที่เคยมีประสบการณ์โดนลงโทษมาแล้วก็คงรู้อยู่แก่ใจดีแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น แถมคราวนี้มีลูกสองคนที่ต้องรับผิดชอบด้วย...
วิชาฝึกลูกเสือให้เอาตัวรอดท่ามกลางความอดอยากจะเริ่มไวๆนี้...เชิญเรียนรู้ประสบการณ์จากคุณพ่อมึงเลยค่า~
“นี่ลงโทษอยู่หรือเปล่า” คริสเงยหน้าขึ้นมองภรรยาด้วยสีหน้าลำบากใจ มันไม่ตลกเลยสักนิดเดียวถ้าอี้ชิงคิดจะลงโทษโดยเอาธุระมาอ้างแบบนี้มันไม่ตลกจริงๆ
“ฮ่าๆๆๆๆๆท ลงโทษอาร๊าย~” อี้ชิงถึงกับหลุดขำเมื่อเห็นนายแบสุดหล่อเลิศเพอร์เฟคทำหน้าเป็นหมาหูลู่แบบนั้น นี่คริสคงรู้ตัวแล้วว่าโดนลงโทษข้อหาขี้เกียจสันหลังยาวชวนลูกเล่นซนไปทั่วโดยที่ไม่คำนึงถึงความเหน็ดเหนื่อยของภรรยาที่ต้องรับผิดชอบงานบ้าน สมน้ำหน้าไปเลย...
“อ้อ~ ธุระใช่ไหม~ ดูถูกคริสมากไปแล้วค่ะ” พอมั่นใจชัวร์ว่าภรรยาวางแผนจะลงโทษเขาคริสก็ทำหน้หยิ่งขึ้นมาทันที นี่วางแผนจะแกล้งกันใช่ไหม แต่เสียใจคราวนี้เขาจะดูแลลูกอย่างดีให้คุณแม่อย่างอี้ชิงอายไปเลย
“ช่าย~ หุๆๆ”
“หึๆๆๆ”
สงครามประสาทย่อมๆของคุณพ่อกับคุณแม่เกิดขึ้นท่ามกลางโต๊ะอาหารโดยมีลูกๆนั่งมองอย่างไม่เข้าใจว่าพ่อแม่เป็นอะไร ทำไมถึงได้จ้องตากันไปมาแล้วแสยะยิ้มน่าเกลียดพิลึกให้กันแบบนั้น แต่จะบอกว่าดูเหมือนทะเลาะกันก็ไม่ใช่
“ถ้าชักว่าวจะถือว่าแพ้นะคะ ฮิๆๆๆๆ!!!!”
ในช่วงเวลาสาย ณ ท่าอากาศยานนานาชาติ เสียงประกาศไฟล์บินดังขึ้นเรียกให้คุณแม่คนสวยที่นั่งกอดหอมอยู่กับลูกชายยืนขึ้นสะพายกระเป๋าขึ้นไหล่เตรียมตัวเดินทางกลับแดนกิมจิที่ไม่ได้ไปเยือนมาหลายปีแล้ว
“คุณแม่คร้าบ~ โทรมาหาด้วยนะคร้าบ~”
“โอเค~ ดูแลคุณพ่อด้วยนะ ถ้าพาใครเข้าบ้านรีบโทรมาฟ้องคุณแม่เลย! คุณแม่ไปแล้วนะ~” อี้ชิงย่อตัวลงดึงลูกชายทั้งสองคนเข้ามากอดแล้วจัดการหอมแก้มซ้ายแก้มขวาทั้งสองเสือให้ชื่นก่อนจะยืนขึ้นมองคุณพ่อที่ยืนกอดอกหน้านิ่งอยู่อย่างที่ไม่รู้ว่าโกรธหรืองอนกันแน่
“ไม่อยากโดนหอมบ้างหรอ” อี้ชิงแกล้งพูดหยออดสามีที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงก่อนจะหัวเราะคิกคักออกมาเมื่อคริสสะบัดหน้าหนีเหมือนจะงอนแล้วก็ไม่ยอมพูดด้วย ต่อหน้าลูกทำเป็นหยิ่งรักษามาดพ่อเสือทีเมื่อคืนหละ ที่รักอย่าไปเลยนะคะ นะคะ please~
โถ่ว อีฝรั่ง....
“ไปแล้วนะคะ” อี้ชิงเดินเข้าไปหาสามีแล้วกอดไว้แน่นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นเตรียมจูบลา แต่พอเห็นสายตาอ้อนวอนเหมือนจะร้องไห้ของอีฝรั่งแล้วมันก็อดขำไม่ได้จนต้องหันหลังเดินหนีออกมาทั้งๆที่ยังไม่ได้จูบ
“คุณแม่ไปแล้วน้า~” อี้ชิงหันไปโบกมือบ๊ายบ่ายให้กับลูกชายทั้งสองคนที่ชูแขนโบกไปมาอย่างโดยที่ไม่ได้สนใจอาการตรอมใจช่วงเริ่มต้นของพ่อมันเลย เขาหันหลังเดินเข้าไปในเกทด้วยหัวใจหน่วงพิลึกเมื่อคิดว่าจะไม่ได้เจอลูกตั้งหลายวัน
แต่จะทำยังไงได้ถ้าไม่ทำแบบนี้อีสามตัวนั่นก็ไม่มันรู้สำนึกบุญคุณของคุณแม่ที่ต้องเหนื่อยยาก คราวหลังจะได้ไม่ดื้อหรือทำตัวเพิ่มภาระอีก อย่างน้อยก็ให้อีฝรั่งมันได้รู้ซะบ้างว่าการงอนเมียแล้วเมียไม่ง้อมันเจ็บปวดแค่ไหน!!
“ไปกลับบ้านเรา” พอเห็นภรรยาเดินหายลับเข้าไปในเกทคริสก็จับมือลูกชายทั้งสองให้เดินตามเตรียมตัวกลับบ้าน ยังไงยกเลิกตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วเขาคงต้องเป็นทั้งพ่อและแม่ให้ลูกทั้งสองคนไปก่อน
“คุณพ่อครับ เราจะไม่กินฟาสฟู้ดใช่ไหม” อี้ฟานพูดขึ้นดักคุณพ่อก่อนที่ตัวเองจะถูกลากไปร้านฟาสฟู้ดเพื่อซื้ออาหารมาตุนไว้กินสำหรับหลายวัน พอนึกๆดูแล้วเขาก็ยังไม่เคยได้กินอาหารฝีมือคุณพ่อเลยคราวนี้น่าจะได้ลองสักที
“ไปกินฟาสฟู้ดเถอะ เชื่อพ่อ” คริสก้มหน้ามองลูกชายทั้งสองคนอย่างสื่อความหมาย ถ้าให้เขาทำอาหารหละก็มีหวังครัวเละเทะได้กินเป็นมื้อเย็นกันพอดี
“โถ่ คุณพ่อก็ทำอาหารสิ ทำแบบคุณแม่ไง” อู๋ฟ่านยู่หน้าทำตัวอ่อนคล้ายกำลังจะงอแง ใครจะไปทนกินแต่เบอเกอร์ สปาเก็ตตี้หรืออาหารแช่แข็งเป็นวันๆ แค่ทำอาหารมันง่ายจะตาย แม่ทำแป้บเดียวก็เสร็จแล้ว
“อือ.....งั้นอยากกินอะไร” คริสชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยถามลูกชายออกมา ถ้าลองไปซื้อหนังสือทำอาหารมาเปิดดูก็น่าจะทำได้ง่ายในเมนูที่ไม่ยากมาก อย่างน้อยก็พวกสปาเก็ตตี้กระป๋อง ชีสกับมันฝรั่ง...หรือเบียร์วุ้น....
นั่นมันไม่ใช่อาหารนี่หว่า...
“อะไรก็ได้ครับ!” ทันทีที่ได้ยินว่าจะได้ลองชิมอาหารฝีมือคุณพ่อ ลูกชายคนเล็กก็ดีใจจนออกนอกหน้า คุณแม่ทำอาหารจีนอร่อยมาก อาหารเกาหลีก็อร่อยหรือแม้แต่อาหารฝรั่งเอง แต่คุณนี่สิไม่รู้ว่าจะทำอาหารชาติไหนให้กินและรสชาติจะเป็นยังไง มันลุ้นในใจไปหมด
“ป่ะ ไปห้างกัน ไปซื้อหนังสือทำอาหารก่อน แล้วมาช่วยกันทำไม่ต้องง้อคุณแม่หรอก!” คริสพูดปลุกใจลูกชายเพราะกลัวว่าลูกจะหงอยเพราะคิดถึงคุณแม่ ถึงเขาจะเป็นคุณแม่ที่เพรียบพร้อมไม่ได้แต่ก็เป็นคุณพ่อที่สนุกร่าเริงได้เพราะงั้นจะกลัวอะไร ยังไงลูกก็ไม่เหงาอยู่แล้ว
“เย้!!”
*
*
*
ตอนนี้เวลาเกือบใกล้เที่ยง คริสกับลูกชายกำลังเข็นรถเข็นเดินไปเดินมาเพื่อหาวัตถุดิบไปทำอาหารเพราะก่อนจะขับรถกลับบ้านภรรยาเขาโทรมาบอกว่าไม่ได้ซื้ออะไรเตรียมไว้ให้คริสถึงต้องขับรถย้อนออกมาห้างใหญ่เพื่อเตรียมของ วันนี้มีกำหนดเมนูหลักก็คือออมเร็ตกับไอติมเบียร์ที่ลูกชายบ่นว่าอยากกินเลยต้องมาหาอุปกรณ์ไปทำที่บ้าน
ตอนนี้เขามีหอมใหญ่ ต้นหอมกับมะเขือเทศแล้วส่วนไข่ไก่กับชีสต่างๆมีที่บ้านอยู่แล้ว และก็เบียร์1แพ็ค น้ำตาลไอซ์ซิ่งไว้สำหรับทำไอติมเบียร์
“คุณพ่อครับออมเร็ตใส่ชีทได้ไหม” ลูกชายคนเล็กที่ยืนอยู่ในรถเข็นเอ่ยถามขึ้น เขาชอบกินชีสพอๆกับคุณพ่อแต่ปกติเวลาคุณแม่ทำอาหารจะไม่ค่อยใส่ให้หรือใส่ให้น้อย แต่ถ้าคราวนี้คุณพ่อทำเองก็น่าจะใส่ได้ในปริมาณตามใจชอบ
“เออ....น่าจะได้ มันต้องได้อยู่แล้วแหละ เป็นออมเร็ตยัดไส้ชีทไง” คริสดีดนิ้วเป๊าะยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี ถ้าเขาทำอาหารเองคราวนี้จะกินจะใส่อะไรก็ได้ทั้งนั้นมันต้องอร่อยแน่ ออมเร็ตอร่อยๆกับชีสเยิ้มๆแค่นึกก็ฟินไปถึงไหน...คริสวาดภาพมันไว้สวยสดทีเดียว
“เย้! คุณพ่อต้องทำรอ่อยกว่าคุณแม่แน่!” อู๋ฟ่านพูดเสียงดังพร้อมกับกระโดดบนรถเข็น วันหรรษาที่ไม่มีคุณแม่ขี้บ่นได้เริ่มขึ้นแล้ว เขาจะเล่นทั้งวัน กินแล้วเล่นแล้วก็นอนไม่ต้องเถียงกับคุณแม่ ความสุขของการใช้ชีวิตอิสระในแบบวัยรุ่น(?)ได้เกิดขึ้นแล้ว!
“คุณพ่อซิ่งหน่อย!!!”
“จับแน่นๆเลย!”
“บรื๊นนนนน!!!!”
เสียงคุณลูกชายหัวเราะคิกคักนั่งลงจับรถเข็นไว้แน่นก่อนที่คุณพ่อขายาวจะรีบวิ่งไถรถเข็นไปตามทางเดินโล่งๆเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาฟาสต์ล้ออย่างเมามันยิ่งกว่า วิน เบนซิล ท่ามกลางเสียงหัวเราะร่าอย่างมีความสุขของลูกชาย...ชีวิตผู้ชายมันต้องมันส์และมีสไตล์แบบนี้ ไม่ใช่เข็นรถเข็นเดินตามหลังภรรยา!!!
“Go Go!!!”
....ตัดมาที่กะเทย....
เวลาตีหนึ่งกว่าๆ ณ กรุงโซล ตอนนี้อี้ชิงเดินทางมาถึงเกาหลีแล้วและก็กำลังรอเจ๊คีย์ขับรถมารับเพื่อที่จะไปพบปะเพื่อนและดื่มสังสรรค์กันนิดหน่อย ไอ้ธุระอะไรที่ว่าสำหรับเขามันไม่มีหรอก แต่อี้ชิงก็แค่คิดถึงเพื่อนกับอยากให้คริสลองเลี้ยงลูกด้วยตัวเองดูบ้างก็เท่านั้นเขาถึงได้ตัดสินใจจะบินมาเกาหลี
ถ้าถามว่าคิดถึงอู๋ฟ่านกับอี้ฟานก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่คิดถึง ขนาดแค่จากกันไม่กี่ชั่วโมงอี้ชิงก็อยากจะโทรไปหาแล้วแต่เขาไม่รู้ว่าที่แคนาดามันกี่โมงถ้าโทรไปตอนนี้จะรบกวนหรือเปล่าเพราะคริสอาจจะกำลังนอนอยู่
ในขณะที่นั่งรอเขาก็นั่งกดเล่นอินเตอร์เน็ตจากไวไฟฟรีของสนามบินไปเรื่อยๆและก็ไม่พ้นเข้าเฟสบุ้คเพื่อกดเลื่อนดูฟีดข่าวสถานะเพื่อนๆไปพราง ที่จริงเขาก็ตั้งใจจะเข้าไปแอบส่องเฟสบุ้คอีฝรั่งด้วยว่าแอบอัพอะไรตัดพ้อเขาหรือเปล่า ในขณะที่กดเลื่อนดูอะไรไปเรื่อย เพจนิตยาสารบันเทิงนั่งเทียนเจ้าประจำของเกาหลีก็แชร์ลิ้งข่าวขึ้นมาบนหนากระดานซึ่งมันเป็นข่าวเกี่ยวกับเควินอะไรซิ่งๆคว่ำๆสักอย่าง
แว้บแรกที่เห็นอี้ชิงใจหายแว้บหัวใจเต้นแรงหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ อะไรคือ เควินซิ่งกลางห้างลูกเจ็บสอง!
เขารีบกดลิ้งเข้าไปดูข่าวทันทีด้วยหัวใจที่ร้อนรนและเพียงไม่นานหน้าข่าวก็โหลดขึ้นพร้อมกับภาพของคริสและลูกชายนั่งยู่กลางห้างโดยมีเจ้าหน้าที่สองคนอยู่ห่างๆและใกล้ๆกันก็มีเชลวางไวน์ที่ตกลงแตกกระจายเกลื่อนพื้น นี่มันข่าวอะไร!
‘วันที่ 11 มีนาคม วันนี้เควินวูกับลูกชายถูก รปภ.ห้างดังในแวนคูเวอร์คุมตัวไปสอบสวนและเรียกเก็บค่าปรับเมื่อนายแบบหล่อพาลูกชายซิ่งรถเข็นของห้างชนเชลวางของจนไวน์ราคาแพงตกแตกถึง26ขวด คิดเป็นเงินชดเชยมูลค่ากว่า 1,000 เหรียญและนอกจากนี้เควินยังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปรับข้อหาฝ่าฝืนกฏของห้างส่วนลูกชายทั้งสองก็แค่ฟกช้ำไม่เป็นอันตราย...’
.
.
.
.
.
.
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!
นี่มันยังไม่ทันข้ามวันเลยแล้วนี่เหี้ยอัลไล!!!!
อี้ชิงกัดฟันกรอดด้วยความเดือดดาลใกล้จะระเบิด เขาบอกอีฝรั่งกี่รอบแล้วว่าอย่าเข็นรถเข็นไวแล้วก็บอกลูกด้วยว่าห้ามขึ้นไปยืนบนรถ
เข็น แล้วพอไม่อยู่วันเดียวนี้มันข่าวบ้าบออะไร!!!
อีเควินมึง!!! น่าจะคอหักตายกันไปให้หมดเลย กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!
-TBC-
Talk
สวัสดีค่ะ หบางคนอาจจะงงว่ามินิสตอรี่อะไรอีก คืออธิบายว่ามันเป็รเรื่องสั้นหลายตอนที่ต่อกันจนกว่าจะจบมินิตตอรี่ ซึ่งต่อจากนี้จะไม่มี ไซด์สตอรี่หรือเรื่องราวย่อยแบบจบตอนเดียวจนกว่าจะจบมินินะคะ 5555 คือไม่สามารถทำให้กะเทยกลับเกาหลีจบในตอนเดียวได้ ถ้ารวมเล่ม mini story จะไปอยู่ท้ายเล่มค่ะ :3 หวังว่าคงไม่งง ขอบคุณทมี่กดแอแฟนพันธ์แท้ค่ะ อย่าลืมสกรีมผ่านแท๊กซ์ #ฟิคทหารเสือ กันด้วยนะคะ ต่อไปนี้จะลงแบบถี่ๆๆแล้วเพราะลดกำหนดคำเวิร์ดไปครึ่งหนึ่งอาจจะอ่านไม่ยาวสะใจแต่ไม่ต้องรอนาน :D
เอ็นจอยรีดดิ้ง!!
สวัสดีค่ะ หบางคนอาจจะงงว่ามินิสตอรี่อะไรอีก คืออธิบายว่ามันเป็รเรื่องสั้นหลายตอนที่ต่อกันจนกว่าจะจบมินิตตอรี่ ซึ่งต่อจากนี้จะไม่มี ไซด์สตอรี่หรือเรื่องราวย่อยแบบจบตอนเดียวจนกว่าจะจบมินินะคะ 5555 คือไม่สามารถทำให้กะเทยกลับเกาหลีจบในตอนเดียวได้ ถ้ารวมเล่ม mini story จะไปอยู่ท้ายเล่มค่ะ :3 หวังว่าคงไม่งง ขอบคุณทมี่กดแอแฟนพันธ์แท้ค่ะ อย่าลืมสกรีมผ่านแท๊กซ์ #ฟิคทหารเสือ กันด้วยนะคะ ต่อไปนี้จะลงแบบถี่ๆๆแล้วเพราะลดกำหนดคำเวิร์ดไปครึ่งหนึ่งอาจจะอ่านไม่ยาวสะใจแต่ไม่ต้องรอนาน :D
เอ็นจอยรีดดิ้ง!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น