วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2557

[SF] Bloody marry














How gentle is the rain


อันสายฝนแสนอ่อนโยน

That falls softly on the meadow.

ช่วยทำให้ทุ่งหญ้าได้ชุ่มฉ่ำ

Birds high up on the trees,

เจ้านกน้อยบนต้นไม้

Serenade the clouds with their melodies.

ส่งเสียงร้องออกมาประสานเสียงเป็นเพลง



















“อี้ชิง แต่งงานกันนะ”


“พี่มั่นใจแล้ว มาใช้ชีวิตด้วยกันเถอะ”








บนยอดเขาเล็กๆที่ปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาวจางๆกับกลุ่มน้ำค้างบนยอดไม้และที่ยอดหญ้าสร้างความเฉอะแฉะไปทั่วพื้นดิน สองร่างนั่งอิงแอบกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่หลบปรอยฝนเม็ดเล็กที่โรยตัวลงมาช้าๆ ความหนาวเย็นและความชื้นจากหมอกทำให้ยิ่งต้องกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น คนตัวโตใช้เสื้อโค้ทที่ตัวเองใส่กอดห่มกายบางในอ้อมแขนเอาไว้อย่างรักใคร่


“อี้ ว่ายังไงหละ” เสียงทุ้มกระซิบเบาๆที่ข้างกกหูคล้ายกับว่าไม่ต้องการให้ต้นไม้และสายฝนได้ยินในสิ่งที่เขากำลังจะพูดกัน


“ฮะๆ คิดว่ายังไงหละ” คนตัวเล็กพิงตัวลงกับแผ่นอกกว้าง แหงนหน้าขึ้นไปกดจูบปลายคางคนตัวสูงกว่า พร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างน่ารัก


ดวงตาสุกใสฉายแววสนุกเหมือนกับเด็กๆที่ได้เล่นสนุกจนอี้ฟานอดไม่ได้ที่จะกดริมฝีปากลงไปช่วงชิงจูบรสหวานจากเด็กน้อยในอ้อมกอดที่กำลังซุกตัวเข้ากับอกเขาเหมือนกับลูกแมว ผมสีทองสว่างสท้อนกับแสงแดดอ่อนๆที่ส่องลอดเข้ามาตามใบไม้หลังจากที่ฝนเริ่มซา เหลือไว้เพียงหยดน้ำชุ่มช่ำที่บ่งบอกว่ามีการกลั่นตัวของไอน้ำ

“ให้มันจริงจังหน่อยสิอี้...” อี้ฟานกดจมูกลงสูดความหอมจากพวงแก้มใสแรงๆก่อนจะดันร่างเล็กๆให้เอนตัวนอนลงบนแขนข้างซ้ายเพื่อที่จะได้จ้องมองใบหน้าน่ารักยามเขินได้อย่างเต็มตา เป็นใบหน้าของ จาง อี้ชิง ที่คริสหลงรักมานานกว่าเจ็ดปี...

“ขนาดนี้ยังไม่รู้อีกหรอ” คนตัวเล็กยกมือขึ้นประคองใบหน้าหล่อเหล่า เผยอรอยยิ้มจางๆออกมาเท่านี้อี้ฟานก็น่าจะรู้คำตอบดีอยู่แล้วโดยที่เขาไม่จำเป็นต้องปริปากพูด

“อี้รักพี่คริสนะ...”









Why do birds suddenly appear? Every time you are near?
เหตุใดเหล่านก  ถึงพร้อมใจกันออกโผบิน  ทุกทุกครั้ง.. ที่คุณใกล้เข้ามา

Just like me
และคนอย่างฉัน

They long to be
ก็ไม่ได้แตกต่างจากใครๆ

Close to you
เมื่อได้อยู่ใกล้คุณ....








“พี่ก็รักอี้นะ.. รักมากเลย” ริมฝีปากหนากดจูบลงบนหน้าผากมนอย่างรักใคร่ เสียงหัวเราะคิกคักชอบใจทำให้ชายหนุ่มต้องละหน้าออกมาสบตากับคนด้านล่างที่กำลังดึงปลอยผมของเขาไปพันกัน


“พี่แต่งงานกับอี้นะ.....”












“อี้ชิง... นาย...คบกับฉันได้มั้ย”

ประโยคแรกที่ได้คุยกันโดยที่มีรุ่นพี่เป็นฝ่ายเข้ามาเอ่ยทักก่อนมันทำให้เหมือนกับโลกทั้งใบหยุดหมุน... ทุกสิ่งรอบตัวถูกสต๊าฟให้อยู่กับที่ เวลาไม่เคลื่อนไหว

คริส....อู๋ อี้ฟาน เด็กหนุ่มตัวสูงที่เป็นถึงเดือนมหาลัยกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขาพร้อมกับเอ่ยถ้อยคำที่เหมือนกับคำโหกออกมา มันไม่เหมือนกับความเป็นจริงที่เคยเกิดขึ้น อี้ฟานเป็นแค่รุ่นพี่ร่วมคณะที่คนตัวเล็กแอบมองอยู่บ่อยๆ และอี้ชิงก็เป็นแค่คนธรรมดาที่หลงใหลในตัวอี้ฟาน ไม่ต่างจากใครๆ
แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมันเหมือนกับฝันไปเลย คนที่แสนดีอย่างไม่น่าเชื่อแบบอี้ฟานจะหันมองเขาที่ไม่อะไรเป็นจุดเด่นสักนิด







Just like me they long to be Close to you…

และคนอย่างฉันก็ไม่ต่างจากใครๆ เมื่อได้อยู่ใกล้คุณ








“พ...พี่ชอบผมหรอ..” ถามออกไปอย่างไม่มั่นใจ อาการประหม่าทำให้ฝ่ามือของคนตัวเล็กชุ่มเหงื่อไปหมด

“ครับ ชอบมานานแล้ว อี้ชิงไม่รู้ตัวเลยหรอ”

ใบหน้าของเขาร้อนผ่าว ถึงจะมองไม่เห็นแต่อี้ชิงก็เชื่อว่ามันใบหน้าของเขาต้องขึ้นสีแดงจัดแน่ๆ ที่อี้ฟานชอบมาช่วยงานเขาก็เพราะแบบนี้หรอ? ทั้งๆที่ปกติคนตัวสูงก็ช่วยงานคนอื่นๆในคณะออกจะบ่อย ดูเป็นคนดีอย่างไม่น่าเชื่อ
อี้ฟานไม่เคยปฏิเสธคำขอความช่วยเหลือ ไม่เคยทำให้ใครรู้สึกไม่ดี แถมยังใจดีมากๆ เขาคนนี้ชอบอี้ชิงจริงๆหรอ..


“พี่ไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ย?” คำพูดของเขาติดขัดเหมือนกับคนติดอ่าง รู้สึกว่ามือไม้เกะกะไปหมดจนอยากจะว๊าบตัวหายไปจากตรงนี้ที่สุด


“ไม่ได้ล้อเล่นครับ ถ้าอี้ไม่ตอบเร็วๆพี่ก็เขินเหมือนกันนะ” เขาพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มชวนหลงไหลที่อี้ชิงชอบ มันไม่เหมือนกับคนเขินเลยสักนิด...


“อ...อื้อ ก็ได้” จาง อี้ชิงก้มหน้าหลุบตามองต่ำ ตอนนี้เขาเขินจนแทบจะทำอะไรไม่ถูกแต่แม้หายใจก็ตาม ทำไมเวลาที่อยู่ต่อหน้าอี้ฟานถึงได้หายใจลำบากไปหมด ไม่เหมือนกับความฝันเลยสักนิด มันเหมือนเรื่องโกหกมากกว่า ถึงตอนนี้อี้ฟานก็ยังไม่ยอมเดินไปไหน ทำให้เขาไม่กล้าขยับตัวแม้แต่นิดเดียว

“จับมือกันนะ อี้จะได้เลิกประหม่าไง” คนตัวสูงพูดพร้อมกับยื่นมือมาตรงหน้าเขา เพื่อให้เขายื่นมืออกไปให้อีกฝ่ายกอบกุม คนตัวเล็กชั่งใจไปชัวครู่ก่อนจะค่อยๆยื่นมือที่สั่นเทาและชื้นเหงื่อออกไป

“ไม่เห็นเป็นไรเลย เห็นมั้ย ไปเรียนกันเถอะ” อุณหภูมิจากฝ่ามือหนาไหลวนเข้ามาในมือที่เย็นเฉียบของเขาจนมันอุ่นลงและกลายเป็นอุณหภูมิเดียวกัน แค่เพียงสัมผัสที่ฝ่ามือก็ทำให้หัวใจของเขาเต้นช้าลงได้อย่างไม่หน้าเชื่อ




อี้ฟานมีอิทธิพลกับเขามากจริงๆ....
















----------------------------------Close To You…------------------------------














“พี่คริสดูนั้นสิ!” คนตัวเล็กโพล่งเสียงออกมาจนน่าตกใจ เมื่อมองเห็นฝูงนกพิราบขนาดใหญ่กำลังบินผ่านเนินเขาเล็กๆที่เขากำลังนั่งอยู่ อี้ฟานหันไปมองตามที่คนตัวเล็กบอกก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาจางๆกับความน่ารักของอีกคน


“มันอพยพหนะ ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนเนอะ” คนตัวสูงหยิบก้านหญ้าสดกับหญ้าแห้งๆขึ้นมาพันทบกันไปมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม


“มันจะบินข้ามประเทศเลยใช่มั้ยอะ”


“อื้อ บินไกลหลายไมล์เลยแหละ”


“อี้อยากเป็นนกจัง อยากบินได้...” คำพูดเด็กๆที่หลุดออกมาจากริมฝีปากทำให้คนตัวสูงยิ้มขำด้วยความเอ็นดู ก่อนจะหันไปจับมืออีกคนขึ้นมาบนเข่าแล้วค่อยๆไถลแหวนดอกหญ้าเข้าไปที่นิ้วนาง อี้ชิงได้แต่หันมามองกับการกระทำของคนตัวสูงอย่างงงๆก่อนจะหายสงสัยเมื่อเห็นแหวนวงเล็กถูกสวมติดกับโคนนิ้ว


“อ่ะ ใส่ไว้ อย่าถอดนะ เดี๋ยวใครไม่รู้อี้มีเจ้าของแล้ว” ว่าแล้วอี้ฟานดึงร่างเล็กๆของอีกคนให้ขึ้นมานั่งซ้อนอยู่บนตัก ก่อนจะซบหน้าลงบนลาดไหล่ สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆประจำตัวคนรัก


“ใครจะไม่รู้หละ ก็ตัวติดกันขนาดนี้” อี้ชิงยกมือขึ้นกางให้แสงอาทิตย์ยามเย็นส่องลอดช่องนิ้วเข้าโดนแหวนจนเป็นเงาขึ้นที่ฝ่ามือ แล้วเอนแผ่นหลังพิงกับออกแกร่งของคนตัวสูง สายตาจับจ้องไปยังฝูงนกที่บินผ่านพระอาทิตย์สีส้มจัดจนเป็นเลายเงาที่ผืนน้ำสีเหลืองทองเต็มไปหมด


“พี่รักอี้นะ...รักมากที่สุดเลย...”


“อี้เชื่อพี่คริสนะ..”











See there beyond the hill, The bright colors of the rainbow
มองเลยยอดเขาออกไป สดใสไปด้วยสีสายรุ้งงาม


Some magic from above. Made this day for us, just to fall in love.
เหมือนกับมีเวทมนที่หล่นมาจากฟากฟ้า ทำให้ในวันนี้ สองเราได้รักกัน

You'll hold me in your arms, And say once again you'll love me.
คุณโอบกอดฉันไว้ในอ้อมแขน บอกฉันอีกครั้งว่าเรารักกัน


And that your love is true, Everything will be just as wonderful.
และนี่คือความเป็นจริง, มันทำให้ทุกสิ่งรอบตัวมหัษจรรย์










สองร่างที่นั่งกอดคลุกคลีกันตั้งแต่เย็นจนตอนนี้พระอาทิตย์ตกขอบแม่น้ำไปแล้ว ทั้งสองคนก็ยังไม่ผละออกจากกัน แต่กลับเอาเทียนหอมที่เตรียมมาจุดแล้วตั้งไว้รอบตัวเป็นวงกลมขนาดใหญ่ ให้มีแสงสว่างมากพอจะมองเห็นใบหน้าของกันและกัน เสียงสนทนายังคงดังสลับกับเสียงหัวเราะเป็นพักๆ กลิ่นเทียนหอมช่วยไล่ยุงและยังช่วยให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย



“นี่ พี่คริส มีดาวด้วยหละ ปกติอี้ไม่เคยเห็นเลยนะ” อี้ชิงนอนหนุนหัวอยู่บนตักอี้ฟานก่อนจะทำท่าชี้มือชี้ไม้ขึ้นไปบนท้องฟ้าสีน้ำเงินเข็มจนแทบจะมึดที่ส่องประกายดาวระยิบระยับเต็มไปหมด


 “อื้อ อี้ชอบหรอ” คนตัวสูงยกหัวร่างบางให้วางลงบนเสื่อก่อนจะเอนตัวล้มตัวลงนอนข้างๆคนตัวเล็ก


“อ้ะ! นั่นดาวตกนี่!  พี่คริสทำให้ดาวตกใช่มั้ย!” จาง อี้ชิงทำท่าดีใจใหญ่เหมือนไม่เคยเห็นดาวตกมาก่อนเมื่อเห็นดาวหางดวงเล็กๆที่นิ่งอยู่เมื่อครู่เคลื่อนตัวพุ่งไปทางใต้อย่างรวดเร็วจนเห็นเป็นแสงขีดๆยาวๆสวยงาม ก่อนที่จะหลับตาลงพึมพัมริมฝีปากคล้ายกับกำลังอฐิษถานอะไรบางอย่าง


“ดาวมันก็มีทุกวันนั่นแหละ” ชายหนุ่มพลิกตัวไปสวมกอดร่างบางจากด้านหลังที่ยังงึมงำกล่าวคำขอพรไม่จบ


“อี้ไม่เคยเห็นนี่”


“อี้ไม่สังเกตุเองต่างหากหละ” เขาพลิกตัวค่อมร่างเด็กน้อยแสนซนเอาไว้ก่อนจะก้มหน้าลงไปใกล้จนปลายจมูกชิดกัน สบส่งสายตาเจ้าเลห์ไปหาดวงตากลมที่ทอประกายสุกใสรับกับแสงเทียน


“แต่ปกติดาวมันไม่ตกอะ ต้องเป็นเพราะพี่คริสแน่ๆ”


“ถ้าพี่ทำให้ดาวตก อี้จะให้อะไรตอบแทนหละ”
อี้ฟานกดจูบลงบนริมฝีปากบางหนักๆ สอดเรียวลิ้นอุ่นชื้นเข้าไปไล่เลียริมฝีปากก่อนจะส่งมันเข้าไปในโพรงปากร้อนเพื่อเกี่ยวรัดกับลิ้นเล็กๆที่พยายามจะโต้ตอบกับเขา ก่อนจะผละออกมามองดวงหน้าหวานใสที่แดงระเรื่อกับดวงตาหวานเชื่อม


“ไม่คิดจะทำจริงๆใช่มั้ยอ่ะ” คนตัวเล็กกดหน้าลงกับไหล่หนาพื่อซุกซ่อนความเขินอายที่กันมาอัดประทุอยู่ที่ใบหน้าเขาจนมันร้อนผ่าวไปหมด


“ใครบอกหละ พี่จะทำจริงๆต่างหาก”

อี้ฟานประคองใบหน้าคนรักให้กลับมาอยู่ตำแหน่งเดิมแล้วกดจูบลงบนปากเล็กอีกครั้ง พร้อมกับสอดมือเข้าไปในเสื้อเชิร์ตสีขาวสะอาดสัมผัสกับหน้าท้องแบนราบและผิวขาวนวลเนียน


“อื้อ...” คนตัวเล็กครางอื้อในลำคอเมื่อ ริมฝีปากหนากดจูบลงบนต้นคอแรงๆทั้งนิ้วเรียวยาวที่ลากไปมาบริเวณหน้าท้องจนกล้ามเนื้อเขาขมวดกันเป็นลูกคลื่นไปหมดตามปลายนิ้ว


สัมผัสอุ่นชื้นลากไล้ไปทั่วกาย สร้างอารมณ์วาบหวามให้กับทั้งสองได้มากพอๆกับจังหวะกายที่สาดโหมใส่กัน อ้อมกอดแข็งแรงกับริมฝีปากร้อนผ่าวถ่ายทอดความอบอุ่นของเขาได้อย่างไม่รู้จบ เสียงครางหวิวดังไปทั่วแต่ยังไม่เท่าเสียงคำพร่ำรักที่ดังอยู่ข้างกกหูซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนแทบจะลืมอารมณ์วาบหวามไปจนหมดสิ้น
ร่างกายของอี้ฟานที่อยู่ในตัวเขาเป็นสิ่งที่ยืนยันอย่างดีว่าเขาทั้งสองคนได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว โดยมีดวงจันทร์และยอดเขาแห่งนี้เป็นพยาน




มีคนเคยบอกว่าถ้าคู่รักร่วมรักกันภายใต้แสงจันทร์จะทำให้รักของทั้งคู่นั้นเป็นนิรันด์ และเขาเองก็เชื่อเช่นนั้น...









Now, I belong to you, From day until forever.
ตอนนี้ฉันเป็นของคุณ วันนี้และตลอดจากนี้ไป


Just love me tenderly And I'll give to you every part of me.
เพียงให้ความรักแก่กัน รักอย่างนี้ทุกวัน รักทั้งกายและใจ...
















---------------------------------Close To You…----------------------------------









“อี้ชิง แต่งงานกันนะ”


“พี่มั่นใจแล้ว มาใช้ชีวิตด้วยกันเถอะ”




ภายในร้าน Wedding marry บรรยากาศดูเต็มไปด้วยความสุขทั้งลูกค้าและพนักงานเอง คนตัวเล็กเอาแต่เทียบชุดนั้นชุดนี้กับตัวเองไม่หยุด เอาแต่ถามคำถามซ้ำๆทั้งๆที่เขาก็ตอบคำตอบเดิมๆแต่อี้ชิงเองก็ยังไม่หยุดถามเสียที


“อี้ใส่ชุดนี้ดีหรือป่าวพี่คริส”


“ชุดใหนก็น่ารักทั้งนั้นแหละ อี้ทำพนักงานป่วนไปหมดแล้วนะ” คนตัวสูงพูดอย่างเอ็นดูเมื่อเห็นพนักงานวิ่งเก็บชุดที่อี้ชิงเอามาลองกันให้ควั่ก แต่คุณผู้จัดงานเองก็ยังใจดีไม่ว่าอะไร แถมยังชมซะอีก


“ภรรยาน่ารักจังเลยนะครับ”


“ขอบคุณครับ” อี้ฟานเพยอยิ้มจางๆ ก่อนจะหันไปคุยแผนการจัดงานต่อ เรื่องสถานที่เขามีอยู่ในใจแล้วแน่นอน แต่เรื่องแสงสี กับดนตรีอาจต้องปรับให้เข้ากับบรรยากาศอีกนิดหน่อย



“อี้ อี้อยากได้วงคนตรีแบบไหนครับ เป็นไวโอลินหรือเปียโนดี” เขาตระโกนขอความเห็นคนรักที่กำลังง่วนอยู่กับการดึงกระโปรงไม่หยุด


“เปียโนสิ อี้จะเล่นเพลงที่ชอบมากๆให้พี่ฟังด้วยนะ เป็นเพลงที่เหมาะกับพี่คริสมากๆเลย”


“งั้นพี่จะเลือกเปียโนนะ อี้อยากได้อะไรเพิ่มหรือป่าว”


“ไม่เอาหละ แล้วแต่พี่คริสสิ” พอว่าจบแล้วก็หอบชุดใหม่ที่พนักงานเอามาให้เข้าไปในห้องลองเสื้อ


“งั้นก็แค่นี้แหละครับ ขอโทษที่ให้จัดงานด่วนกระทันแบบนี้” อี้ฟานหยิบชุดแต่งงานสีขาวของตัวเองขึ้นมาพาดไว้บนแขนก่อนจะก้มหัวให้กับคุณผู้จัดงานเป็นการขอบคุณที่อยู่ๆเขาก็มาขอให้จัดงานแต่งด่วนจี๋แบบนี้


“ไม่เป็นไรหรอกครับงานแต่งง่ายๆแบบนี้จัดไม่อยาก ยังไงพรุ่งนี้ผมจะไปเป็นแขกร่วมงานด้วยนะครับ”  ชานยอลพูดยิ้มๆกับความน่ารัก
ของคู่แต่งงานชาย-ชายคู่ที่สี่ของร้านที่สามีทั้งหล่อเท่และภรรยาก็น่ารักจนน่าอิจฉา


“ได้เสมอครับ ฮะๆ” ชายหนุ่มหัวเราร่าก่อนจะนั่งลงอีกครั้งเพื่อรอภรรยาที่กำลังเลือกชุดอยู่อย่างสนุกสนาน





สายฝนและยอดเขาเป็นพยาน คริสกำลังจะได้แต่งงานกับคนที่รักที่สุดอย่างอี้ชิง นึกแล้วก็ไม่ออยากจะเชื่อเท่าไหร่ว่าเขาคบกับอี้ชิงมานาถึง8ปี โดยที่ไม่เคยเทลาะกันเลยแม้สักครั้งเดียว... อี้ชิงไม่ใช่คนงี่เง่าและเขาเป็นคนใจเย็น อาจเป็นเพราะแบบนี้ที่ทำให้ความรักของเราราบรื่นมาตลอดช่วงเวลาที่คบกัน อี้ฟานไม่เคยเบื่อที่จะพูดว่ารัก และอี้ชิงไม่เคยเบื่อที่จะรับฟัง
ขอบคุณเวลาและทุกสิ่งที่ประคองเราให้ผ่านมาได้ถึงวันนี้ พรุ่งนี้เขากำลังจะแต่งงานแล้ว...



จะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ... ใช้ชีวิตร่วมกัน...อย่างมีความสุข....





“พี่คริส! ชุดนี้สวยมากๆเลย เป็นยังไงบ้าง”  คนตัวเล็กวิ่งลากกระโปรงยาวออกมาจากห้องลองชุดจนเกือบจะสดุดล้ม แล้วมาหมุนตัวไปมาในชุดเกราะอกกระโปรงยาวๆบานๆที่เป็นผ้าบางดูไม่เทอะทะ


“อื้อ เอาสิ น่ารักมากเลย” เมื่อได้ยินดังนั้น จางอี้ชิงก็ยิ้มร่าอย่างชอบใจก่อนจะหันไปบอกว่าพนักงานตัวเล็กว่าเขาต้องการชุดนี้กลับบ้าน
ที่จริงชุดไหนสำหรับอี้ชิงมันก็สวยๆเหมือนกันนั่นแหละ แต่เขาเห็นว่าคนตัวเล็กชอบถึงได้บอกให้เอาตัวนั้น ไม่อย่างนั้นอี้ชิงคงจะลองชุดจนหมดร้านแน่

















------------------------------------Close To You…----------------------------








“ได้ชุดแล้ว กลับบ้านกันเถอะ” จาง อี้ชิงยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับเดินไปควงแขนแฟนหนุ่มเอาไว้แน่น ดูเป็นภาพที่แสนน่ารักสำหรับพนักทุกคนในร้านเลยทีเดียว โดยเฉพาะคุณเจ้าของร้านกับคุณผู้จัดการที่กำลังจะแต่งงานกันไวๆนี้


“ขอบคุณมากนะครับ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน” อี้ฟานโค้งตัวป็นการขอบคุณทางร้านอีกทีก่อนจะเดินออกไปจากร้านพร้อมกับคนคัวเล็กที่ยังพูดพร่ำไม่หยุดราวกับนกแก้วนกขุนทอง


“น่ารักจังเลยเนอะ เราเลื่อนวันแต่งงานเราเข้ามาเร็วๆเถอะชานยอล” เด็กหนุ่มตัวเล็ก ที่เป็นถึงผู้จัดการร้านเดินเข้าไปกอดแขนของแฟนหนุ่มแน่น พร้อมกับไถหัวทุยๆไปมากับไหล่ลาด


“อื้อ เดี๋ยวเสร็จงานนี้ก็ให้เป็นของเราเลยแล้วกัน” ชานยอลกดจูบแรงๆลงบนกลุ่มผมนุ่มพร้อมกับรอยยิ้ม เพราะชานยอลเองก็อยากจะแต่งงานกับแบคฮยอนจะแย่ถ้าไม่ติดว่าร้านเวดดิ้งของเขาช่วงนี้งานยุ่งมากจนแทบจะไม่มีเวลา แต่หลังจากนี้ตารางงานก็ว่างหมดแล้วหละ



“อ้อ งั้นผมจะ...”









“อ๊ายยย!!! แบค!! ชานยอล! ดูนั่นเร็ว!!!”

เสียงพนักงานในร้านหวีดร้องลั่นพร้อมกับปิดตาชี้มือออกไปหน้าร้าน ทำให้ทั้งชานยอลและแบคฮยอนผละออกจากกันแล้วหันไปดูโดยไว รถบรรทุกฟางคันใหญ่ที่ชนประสานงากับรถปิ๊กอัพสีบลอนด์โดยมีรสนิสสันสีขาวถูกชนอัดก้อปปี้อยู่ตรงกลางท่ามกลางฝูงชนที่แตกตื่น


“นั่นมันรถที่คุณอี้ชิงขึ้นไปนี่!! พี่ไปดูเร็ว!!” แบคฮยอนตกใจสุดขีดวิ่งไปผลักประตูร้านพุ่งตัวออกไปทันทีอย่างรวดเร็วเป็นคนแรก ในขณะที่แบคฮยอนและพนักงานคนอื่นๆวิ่งตามไปติดๆ

รถบรรทุกที่ขับชนดูเหมือนจะได้สติก่อนจึงขับถอยหลังออกมา แต่รถคันที่ที่อี้ฟานนั่งถูกอัดติดกับกันชนรถปิ๊กอัพจนเละแยกไม่ออก คนแถวนั้นวิ่งแห่เข้ามาดูพร้อมกับพยายามหาอุปกรณ์งัดซากเหล็กอย่างชะแลงมาช่วยกันงัดประตูออก ชานยอลรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรเรียกรถพยาบาลทันที


“เป็นรถปิ๊กอัพขับย้อนศรมายังไง ไอ้บ้า” วินมอเตอร์ไซค์ที่ยืนดูอยู่พูดขึ้นมาอย่างหัวเสีย เมื่อเขาเห็นว่ายังไงคนด้านในรถนิสสันยังไงก็ไม่รอดแน่ๆ

“ไอ้คันนี้แหละพี่ที่มากจากซอยข้างๆใกล้ๆนี่แหละ มันย้อนทุกวัน แล้วไอ้รถคันสีขาวนี่ก็ถอยรถออกมาเลยชนอัดกันพอดี แบบนี้ผมว่าไม่รอด”
แบคฮยอนที่ยืนฟังคนเห็นเหตุการณ์เล่าเขาก็แทบจะทรุดลงกับพื้นทันที คุณอี้ชิงกำลังจะแต่งงานไม่ใช่หรอ!! ทำไมถึงมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้!


“ฮึก ชานยอล เขาจะรอดมั้ย ฮรื่อ....” คนตัวเล็กซบหน้าลงกับแขนคนรักพร้อมกับปล่อยน้ำตาออกมา ด้วยอารมณ์อ่อนไหว

“นี่ พาแบคฮยอนเข้าไปในร้านก่อน ผมจะไปช่วยเขางัดรถ” ชานยอลหันไปสั่งกับลูกน้องที่ร้านด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะเดินเข้าไปช่วยกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์อีกแรง


“แบค ไปในร้านกับพี่เถอะ” พนักงานสาวเอ่ยขึ้นตามคำสั่งเจ้านาย อีกอย่างเขาคิดว่ามันคงไม่ดีแน่ที่จะมายืนเกะกะแบบนี้


“ไม่เอา ผมจะรอชานยอล อึก ผมไม่เป็นไร” คนตัวเล็กขยี้ตาแรงๆจนเริ่มแดงก่อนจะเดินเบียดฝูงชนเข้าไปจนถึงซากรถ
เข้าเห็นร่างของคุณคริสที่ซบหน้าอยู่กับพวงมาลัย ใบหน้ามีรอยแผลจากเศษกระจกและเลือดออกที่จมูกและปาก แต่ฝั่งคุณอี้ชิงเขากลับเห็นเพียงแค่ศรีษะที่โผล่พ้นกระจกมาไม่มาก กับชุดแต่งงานสีขาวที่เปรื้อนไปด้วยเลือดพาดอยู่กับคอนโซนรถ


“อีกนิดเดียว! จะออกแล้ว!!” วินคนนึงตะโกนขึ้นพร้อมกับเพิ่มแรงงัดรถมากกว่าเดิมจนเหล็กดังครึก ก่อนที่ซากประตูฝั่งที่โดนรถบรรทุกอัดก้อปปี้จะหลุดออก พร้อมกับร่างกายส่วนบนของชายหนุ่มที่หลุดดออกมาโดยที่อยู่ในสภาพสองแขนกอดชุดแต่งงานไว้แน่น





ภาพที่แสนเสทือนใจคนแถวนั้นจนมีหลายคนร้องไห้ไปตามๆกัน แต่สำหรับแบคฮยอน สติของเขาไม่หลงเหลืออยู่เลย...




“เห้ย! มีคนเป็นลม เอาเข้าไปในร้านชุดแต่งงานก่อน!” ชายคนนึงตะโกนขึ้นพร้อมกับอุ้มร่างที่อ่อนปวกเปียกของแบคฮยอนหลบฝูงชนไป

ชานยอลทำหน้าเครียดกว่าเดิม ดูแล้วสภาพขาดครึ่งตัวแบบนี้คงไม่รอดแน่ เขาจึงชโงกหน้าเข้าไปดูอีกคนในซากรถที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ดีจากภายนอก แต่ข้างในคงบอบช้ำไม่เบาเพราะดูจากเลือดข้นคั่กที่ไหลออกมาทั้งทางปากทางจมูกแล้วคงโคม่าเอาการทีเดียว ชานยอลกันคนไม่ให้ใครเข้าใกล้รถก่อนจะเดินไปดูคนในรถปิ๊กอัพที่โดนชนอัดช่วงล่างเช่นกัน


“รถพยาบาลมาแล้วครับ หลีกทางหน่อย!” ชายหนุ่มหลบตัวให้รถพยาบาลเข้ามาทำหน้าที่แทน ก่อนจะปลีกตัวออกจากฝูงชนเพื่อไปดูอาการแบคฮยอนที่ช็อคจนสลบไป คนอ่อนไหวแบบนั้นพอเจอเรื่องแบบนี้คงเสทือนใจน่าดู...


ขนาดเขาเองก็ยังรู้สึกว่าตัวเองน้ำตาจะไหลออกมา แค่พรุ่งนี้...ทั้งๆที่กำลังจะแต่งงานกันแล้วแท้ๆ ทำไมเรื่องแย่ๆถึงได้เกิดขึ้น ทำไมกัน... แค่อีกไม่กี่ชั่วโมง..














---------------------------------Close To You…-------------------------------














เสียงเปียโนยังคงดังอย่างต่อเนื่องบนยอดเขาที่เงียบสงัด สายฝนปรอยๆตกลงเรื่อยๆลงมาจากท้องฟ้าให้พื้นหญ้าชุ่มฉ่ำ อี้ฟานยังคงนั่งอยู่ที่เดิมพร้อมกับบรรเลงเพลงไพเราะจับใจจากเสียงเปียโนและเสียร้องทุ้มต่ำ


“อี้ชิง แต่งงานกันนะ”


“พี่มั่นใจแล้วหละ มาใช้ชีวิตด้วยกันเถอะ...”


ชายหนุ่มพร่ำออกมาพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ พรางเหลือบตาไปมองร่างเล็กๆที่นอนนิ่งไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง รอให้ฝนเริ่มซาลงกว่านี้เขากับอี้ชิงจะได้ไม่ต้องเปียกฝนอีกครั้งในวันแต่งงาน... อี้ฟานเดินไปย่อตัวนั่งลงข้างๆเตียงที่มีร่างกายของภรรยาของเขาในส่วนท่อนบนแน่นิ่งอยู่ ก่อนจะบรรจงสวมแหวนดอกหญ้าที่ทำไว้ตั้งแต่เมื่อคืนเข้าไปที่นิ้วนางข้างซ้ายเบา แล้วประทบจูบลงบนฝ่ามือเล็กที่ซีดเซียว


“ตื่นขึ้นมาสักทีสิอี้ อากาศชื้นจนตัวเย็นแล้วนะ ถ้าไม่ตื่นขึ้นมาอาบน้ำอุ่นตอนนี้มันจะหนาวนะ...”


“เร็วๆสิ พี่กำลังจะขออี้แต่งงานนะ อี้ชอบฝนไม่ใช่หรอ ถ้าชอบก็ตื่นขึ้นมาสิ เดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก..”
ชายหนุ่มยังคงพูดไปเรื่อยๆด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับว่าไม่อยากปลุกร่างบนเตียงให้ตื่นขึ้นมาจะต้องการมากแค่ใหนก็ตาม ...


“พี่จะรอให้อี้ตื่นนะ จะนั่งอยู่ตรงนี้จนกว่าจะตื่นเลย..."













“คิก ตื่นแล้วๆ คนบ้า” เสียงหัวเราะเล็กๆดังขึ้น เรียกรอยยิ้มจากคนตัวสูงที่นั่งอยู่กับพื้นได้เป็นอย่างดี


“ทำไมวันนี้ตื่นสาย ปล่อยให้รอตั้งนาน” อี้ฟานยืนขึ้นเต็มความสูงพร้อมกับโน้มตัวเข้าไปใกล้คนตัวเล็กจิ๋วที่มีแต่ร่างกายท่อนบนบนเตียง


“อื้อ ก็ฝนตกนี่หน่า อากาศชวนนอนจะตาย แถมยังมีตาแก่ที่ใหน่ก็ไม่รู้มาเล่นเปียโนให้ฟังแต่เช้า” เสียงเจื้อยแจ้วยังคงดังสดใสเหมือนทุกวันที่ได้ตื่นมาเห็นคนตัวสูงอยู่ข้างๆ


“ไปอาบน้ำได้แล้วนะ นี่กี่โมงแล้ว นี่วันครบรอบแต่งงานนะ ไปเร็ว”


“อุ้มๆ” คนตัวเล็กชูแขนจนสุดมือเพื่อให้คนสูงอุ้มตัวเองไปเข้าห้องน้ำ ก็ไม่มีขานี่เนาะ ทำอะไรก็คงไม่สดวก


“รู้แล้วน่า”


“พี่คริส อี้มีแต่ท่อนบนแบบนี้น่าเกลียดมั้ยอะ” เสียงเล็กๆถามขึ้นในขณะที่ซบหน้าลงไหล่อุ่นๆไปด้วย


“อืออ...เหมือนพวกตัวจิ๊บิขาสั้นในการ์ตูนมากกว่า แบบพวกตัวมิรุโมที่อี้ชอบดูไง”


“บ้า! ไม่ใช่ซะหน่อย” อีชิงพยายามดีดขาแกว่งไปมาเหมือนเด็กๆโดนขัดใจ แต่เมื่อไม่มีขากลายเป็นว่าตัวของเขาดิ้นดุ๊กดิ๊กเสียเอง


“นี่ ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเหมือนนะ ถ้าดื้อพี่เอาอี้ใส่ชักโครกแล้วกดลงไปจริงๆนะ” คนตัวสูงทำเสียงดุในขณะที่วางร่างเล็กๆลงบนพื้นห้องน้ำแล้วค่อยถอดเสื้อตัวเล็กออก พร้อมกับกางเกงที่ไว้ใส่นอนกันฉี่ตอนกลางคืน


“แหงะ ขาอี้แทบไม่มีเลยอะ” คนตัวเล็กเบ้หน้าพยายามจะยกโคนขาที่เหลืออยู่น้อยนิดขึ้นแต่กลายเป็นว่าตัวเองหงายหลังจนหัวโขกพื้นไปซะงั้น


“อ๊ะ อ๊ะ พี่คริสดึงขึ้นหน่อย” คนตัวสูงได้แต่แสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหึๆในลำคอด้วยความขำ พร้อมกับเดินไปที่ประตู ทำท่าจะเดินออกไปโดยทีทิ้งคำพูดสุดท้ายที่แสนเจ็บปวดเอาไว้...



“แน่จริงลุกเองให้ได้สิ”




“อ๊า อย่าแกล้งสิ! คนบ้าาาาาา!!”













---------------------------------Close To You…-------------------------------









มหัษจรรย์ใช่มั้ย... ที่อี้ชิงไม่ตาย.. ทั้งๆที่เหลือแค่ครึ่งตัว นึกแล้วก็น่าขำตอนที่เราทั้งคู่ไปปรึกษาหาฤกษ์กับหมอดู บอกว่าจะจัดงานแต่งงาน แต่หมอดูกลับทักว่าจะเกิดอาเพศใหญ่ จะต้องมีคนตาย ไม่มีทางได้แต่งงานกัน...

แต่ผมก็เอาชนะมันมาได้...ขำใช่มั้ยหละ พวกเราประชดโชคชะตาที่ไม่สามารถเอาชนะปราฏิหารย์แห่งรักของเราด้วยการแต่งงานกันทุกปีซะเลย ผมซื้อที่บนเขานี่และขึ้นมาสร้างบ้านอยู่กันอย่างสงบ ธุรกิจที่ผมทำมีเม็ดเงินมหาศาลให้ใช้ได้อย่างเหลือเฟือโดยที่ไม่ต้องทำงานและมีเวลาดูแลคนตัวเล็กทั้งวันมาตลอดหลายปี

ผมไม่ได้รู้สึกถึงร่างกายที่พิการของอี้ชิงเลยสักนิด อี้ชิงไม่ได้ตายซะหน่อย แค่ตัวหดเล็กลงเท่านั้นเอง ไม่ใช่แค่ขาที่ขาดไปแต่เซลล์หลายๆอย่างๆยังตายไปด้วยจนร่างกายอี้ชิงแทบจะหดเล็กเป็นมนุษย์จิบิอยู่แล้ว แต่ยังไงก็ต้องขอขอบคุณพระเจ้าที่ยังเหลือสะโพกไว้ให้ผม...



ไม่ใช่แค่สะโพก แต่หมายถึง จาง อี้ชิงของผมด้วย... ขอบคุณที่ไม่พรากชีวิตเอาชีวิตคนรักของผมไป...



สายฝนและยอดเขาเป็นพยาน เขาได้แต่งงานกับคนที่รักที่สุดอย่าง จาง อี้ชิง.....





Don't ever make me cry,
ไม่เคยทำให้ฉันร้องไห้


Through long lonely nights without us.
ในคืนที่ต้องอยู่อย่างเดียวดาย


Be always true to me,
ความรักที่มาจากใจ

Keep this day in your heart eternally.
....จะไม่แปรเปลี่ยนไป รักแท้ตลอดกาล....





3 ความคิดเห็น:

  1. ค่อยยังชั่วเนอะที่รอดตาย ><
    ลุ้นแทบตายย ทุกอย่างราบรื่นตลอด
    ตอนใกล้ ๆ จบต้องมีอะไรแน่ ๆ
    แล้วก็มีจนได้ 55

    ตอบลบ
  2. เป็นฟิคที่ดีเรื่องนึงเลย ขอบคุณที่แต่งฟิคดีๆมาให้อ่านกันนะ :))

    ตอบลบ